|
แมนฯยูฯ VS เชลซี |
ช่วงเวลาสำคัญของฤดูกาลเดินทางมาถึงแล้วเมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของเชลซี ซึ่งกลับมามีลุ้นแชมป์อย่างเป็นทางการ นับจากโดนทิ้งห่างถึง 15 แต้มเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่ก่อนลงสนามนัดนี้พวกเขามีโอกาสแซงขึ้นไปเป็น “จ่าฝูง” และมีโอกาสคว้าแชมป์ได้หากบุกชนะแมนฯยูฯ ถึงบ้าน
อย่างไรก็ตามหากเกมนัดนี้ พวกเขาพลาดท่าปราชัยต่อเจ้าบ้านแมนฯยูฯ กระทั่งทำได้แค่เสมอ นั่นหมายความว่าโอกาสครองแชมป์ปีนี้ตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเกิน 80 เปอร์เซนต์
แม้จบเกมนี้จะเหลือโปรแกรมอีกทีมละสองนัดแต่เชื่อว่านี่คือนัดตัดสิน แชมป์ของทั้งสองทีมเพราะมันคือการลุ้นแชมป์กันโดยตรงและยังต้องเผชิญหน้ากัน เองเพื่อตัดแต้มกันอีกด้วย...
ส่วนกลุ่มอื่นๆนั้นอันดับสี่ดูเหมือนว่าแมนฯซิติ้ จะปักหลักได้มั่นคงกว่าสเปอร์ส ซึ่งพลาดท่าตกไปอยู่อันดับ 6 เพราะโดนลิเวอร์พูงแซงขึ้นมาแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ทำท่าว่าอาจอดไปเล่นบอลยุโรปได้ และกลายเป็นพวกเขาต้องลุ้นอันดับ 5 แข่งกับหงส์แดงซะมากกว่า
สเปอร์สมีโปรแกรมต้องเตะกับแมนฯซิตี้และลิเวอร์พูลด้วย...นี่จึงเป็นงาน ยากของพวกเขามากกว่าลิเวอร์พูลซะแล้ว ส่วนกลุ่มท้ายตารางอักษรย่อ W ทั้งหลายที่ลุ้นว่าจะรอดไม่รอดนั้นยังไม่มีทีมไหนตกชั้นอย่างเป็นทางการนับ ว่าเป็นปีที่เข้มข้นเอามากๆ
ที่สำคัญปีนี้แต้มต่ำสุดที่จะทำให้ไม่ตกชั้นเผลอๆ ไม่ถึง 40 ด้วยซ้ำ
สถิติ Man Utd v Chelsea
|
แมนฯยูฯ ชนะ
|
เสมอ
|
เชลซี ชนะ
|
ลีกสูงสุด
|
56
|
41
|
40
|
ลีก คัพ
|
2
|
1
|
1
|
เอฟเอ คัพ
|
8
|
1
|
2
|
Total
|
66
|
43
|
43
|
ในพรีเมียร์ลีกนั้นแมนฯยูฯไม่แพ้ใครมาตั้งแต่เมื่อ 3 เม.ย.2010 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และทุกรายการก่อนที่จะพบกับชาลเก้ 04 ส่วนการเผชิญหน้ากับเชลซีในปีนี้แมนฯยูฯชนะ 3 เกมในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ และชปล.ทั้งสองนัด ส่วนในพรีเมียร์ลีกนั้นพวกเขาแพ้เชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์มาก่อน
นัดล่าสุดที่แมนฯยูฯ ชนะเชลซีในพรีเมียร์ลีกเมื่อ ม.ค. 2009 ถล่มไป 3-0 แต่สามนัดหลังสุดพวกเขาแพ้เชลซีทุกนัดทั้งเหย้าและเยือน (ในลีกอย่างเดียว) อย่างไรก็ตามสามนัดหลังที่เชลซีชนะมักจะมีปัญหาจากประตูที่เกิดจากการตัดสิน ไม่ทันเกมของผู้ตัดสิน กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ หลังเกมอีกเช่นกัน
โปรแกรมที่เหลือของแมนฯยูฯ และ เชลซีนัดที่ 37…แบลคเบิร์น-แมนฯยูฯ 14 พ.ค. 18.45 น. , เชลซี-นิวคาสเซิล 15 พ.ค. 19.30 น.
นัดที่ 38…เอฟเวอร์ตัน-เชลซี, แมนฯยูฯ-แบลคพูล แข่งพร้อมกัน 22.00 น. วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.
ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เวบบ์ อดีตจ่าตำรวจมือปราบ แห่งยอร์คเชียร์รับหน้าที่ผู้ตัดสินในเกมนี้ ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์กันพอสมควร ในฐานะมือหนึ่งของอังกฤษซึ่งมีประสบการณ์มากมายโดยเฉพาะคุมเกมฟุตบอลโลกนัด ชิงชนะเลิศระหว่างสเปน-ฮอลแลนด์ ที่ผิดพลาดไม่ไล่ ไนเจล เดอ ยอง ออกจากการแข่งขันเมื่อไปกระโดดกังฟูคิกใส่ ชาบี อลอนโซ ด้วยเพราะเกรงว่านัดชิงจะกร่อยหากฮอลแลนด์เหลือ 10 คน
อย่างไรก็ตามในเอฟเอ คัพรอบ 3 ที่แมนฯยูฯ ชนะลิเวอร์พูล เขาไล่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ออกจากการแข่งขัน ในลักษณะการฟาวล์รุนแรง ไม่ต่างจาก เดอ ยอง
โดยภาพรวม เวบบ์ มีประสบการณ์มากกว่าทุกคน..แต่ปัญหาคือเมื่อต้องวินิจฉัยจังหวะสำคัญๆนั้น แฟนบอลสองฝั่งอาจต้องลุ้นพอสมควรว่าใครจะได้ประโยชน์จากการตัดสินมากกว่ากัน
สภาพทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจพักตัวหลักในเกมนัดเตะแชมเปี้ยนส์ ลีกกับชาลเก้ อย่างเวย์น รูนีย์ นั้นไม่มีชื่อลงสนามด้วยเช่นกัน เลือกใช้ เบอร์บาตอฟ หน้าเป้า มีปีกอย่าง วาเลนเซียและ นานี ขณะที่แดนกลาง กิ๊บสัน, อันแดร์สันและสโกลส์ โดยข้างหลังนั้นตัวสำรองหมดทั้ง สมอลลิง, เอแวนส์, โอเช, ราฟาเอล ให้ ฟาน เดอ ซาร์ ตัวหลักคุมเกมรับทั้งหมด
คาดว่านัดรับมือเชลซีตัวหลักอย่างเอวรา, วีดิช, ริโอ, กิ๊กส์, รูนีย์, พาร์ค ชี ซอง กลับมาลงสนามในระบบ 4-4-2 เช่นเดียวกันกับ ชิชาริโต เหตุผลคือต้องการความสดในการสู้กับเชลซี เพราะนัดแพ้อาร์เซนอล่าสุดนั้น แมนฯยูฯ ตื้อไปพอสมควร เล่นแบบไม่มีพลังเลย
เชลซีนั้นพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแถมมีโชคจากการตัดสินอีกต่างหาก นัดนี้คาดว่า คาร์โล อันเชลอตติ จะใช้ ตอร์เรส กับ ดรอกบา เล่นข้างหน้าก่อนในระบบ 4-4-2 เหมือนกัน แดนกลางทั้ง มาลูดา, แลมพาร์ด, โอบี มิเกล, เอสเซียง ช่วยกันตัดเกมแมนฯยูฯ สภาพทีมค่อนข้างปึ้กสำหรับทีมเยือน
กลยุทธ์และผลที่คาด เกมคู่นี้จะเล่นระบบเดียวกัน คือ 4-4-2 วัดกันที่แดนกลางว่าใครคุมพื้นที่ส่วนนี้ได้ มีโอกาสทำเกมรุกถึงหน้าเขตโทษอีกฝั่งหนึ่ง อย่างนัดก่อนแมนฯยูฯ ปล่อยให้อาร์เซนอลครองบอลได้มากกว่าเลยทำให้พวกเขาต้องรับ ประกอบกับสภาพทีมอ่อนล้าจากแชมเปี้ยนส์ ลีก เลยทำให้พวกเขาเล่นเกมไม่ออก นัดนี้สภาพทีมได้สด มีพักกันหลายคน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเชลซีนั้นกรำศึกน้อยกว่าเมื่อเทียบกับจำนวนนัดต่อสัปดาห์ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
นัดนี้เกมน่าจะออกสูสี ทั้งสองทีมคงเล่นกันแบบเกร็งสุดๆ เพราะกลัวพลาด ใครพลาดก่อนน่าจะแพ้ในเกมนี้ทันที ดูแล้ว โอกาสเสมอแบ่งทีมละ 1 คะแนนมีค่อนข้างสูง แม้ผลเสมอเป็นใจให้แมนฯยูฯมากกว่า แต่อีกสองนัดที่เหลือแมนฯยูฯก็พลาดไม่ได้เช่นกัน
ผลที่คาด...เสมอกัน
วันเสาร์ที่ 7 พ.ค. 2011
Aston Villa v Wigan แม้หายใจหายคอได้บ้างสำหรับ วิลล่า แต่การพบกับวีแกน ที่เล่นแบบถวายชีวิต นัดนี้เหนื่อยแน่ การไม่มี อุลลิเยร์ คุมข้างสนาม เป็นผลเสียต่อทีม นัดนี้โอกาสแบ่งแต้มมีสูง
Bolton v Sunderland สบายตัวทั้งสองทีม โบลตันน่าจะกลับมาโชว์ฟอร์มอีกครั้งหนึ่งในบ้าน เพราะช่วงหลังซันเดอร์แลนด์เล่นเหมือนถอดใจแล้ว
Everton v Man City ทอฟฟีแผ่วไปสองนัดล่าสุด นัดนี้ไม่น่าต้านเกมรุกที่เริ่มเข้าฝักแถมเด็ดขาดในการเล่นเพื่อชนะของเรือ ใบสีฟ้า แม้จะยากลำบาก เรือใบบุกเชือดเจ้าบ้าน เพราะเกมรุกดีกว่า
Newcastle v Birmingham สาลิกาดงมีปัญหาแนวรับกับแดนกลาง แต่เล่นในบ้านมักทำได้ดี แต่เบอร์มิงแฮมปรับเกมรับแน่นขึ้น เชื่อว่าออกสามหน้าคู่นี้
West Ham v Blackburn เตะอย่างลืมตายสำหรับเวสต์แฮม สามคะแนนไม่รู้ว่าช่วยได้หรือไม่ แต่พวกเขาต้องชนะแบลคเบิร์นให้ได้ นัดนี้โอกาสเป็นใจให้ทีมของ อฟราม แกรนต์ แล้ว น่าเบียดชนะได้สามคะแนน
Tottenham v Blackpool เตะดึกสุดเวลาห้าทุ่มครึ่ง สเปอร์สแผ่วมาหลายนัด ฝืดในเกมรุก แถมมาเจอกับเสือลำบากอย่าง แบลคพูล ที่เล่นเพื่อชีวิตในการอยู่รอด นัดนี้ไม่ง่ายแน่เมื่อเจอสไตล์วิ่งสุ้ฟัด โอกาสออกเสมอมีสูง
วันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค. 2011
Wolverhampton v West Brom ดาร์บี้แมตช์ของแถบภาคกลาง นัดนี้เชื่อว่าวูล์ฟมีดีพอที่จะเบียดชนะ เวสต์บรอม หาไม่แล้วพวกเขาต้องไปลุ้นใหม่อีกสองปี นัดนี้เต็มที่
Stoke v Arsenal สโตค ซิตี้ ซ้อมใหญ่ก่อนชิงเอฟเอ คัพ เชื่อว่าพวกเขาจะเล่นแบบระวังตัว ไม่ผลีผลามและนั่นคือโอกาสที่อาร์เซนอลจะชนะในเกมนี้ได้ไม่ยาก
บทความโดย "แจ็คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา