เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่เชื่อว่าการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้จะจบลงง่ายๆ ต้องมีจุดพลิกผันอีกแน่


แมนฯ ยูไนเต็ด นำโด่งในตารางอันดับเวลานี้ ทิ้งห่างเชลซี ทีมอันดับ 2 อยู่ 6 แต้ม และอาร์เซนอล 9 แต้ม แต่ก็ต้องเจอกับ 2 ทีมนี้ใน 2 เกมข้างหน้า โดยเริ่มจาก “ปืนใหญ่” ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทำให้ เฟอร์กี้ คิดว่าบางทีอาจจะต้องมีจุดพลิกผันเกิดขึ้นอีก

“มันยังมีเรื่องดราม่าที่น่าจะเกิดขึ้นอีก”

“ทีมในระดับหัวแถวจะทำแต้มหล่น รวมถึงเชลซีด้วย”

“2 เดือนที่แล้ว เราทุกคนคิดว่ามองว่า 2 เกมข้างหน้าของเราจะเป็นจุดตัดสินแชมป์ ดูเหมือนมันจะเป็นจริงๆแล้วในเวลานี้”

“แต่เรายังมีเกมในบ้านนัดสุดท้ายที่จะตัดสินแชมป์ ซึ่งผมยินดีมาก”

คาร์ลอส เตเวซ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลุ้นตัวโก่งว่าคาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงอาร์เจนไตน์จะเรียกความฟิตกลับมาช่วยทีมในเกมนัดชิงเอฟ เอ คัพที่จะเจอกับ สโต๊คในวันที่ 14 พ.ค.นี้ได้หรือไม่ เนื่องจากหมอยืนยันมีโอกาส 50/50


เตเวซได้รับบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ามาจากเกมพ่ายลิเวอร์พูล 0-3 เมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และต้องพลาดลงสนามหลายเกม รวมถึงรอบรองฯ เอฟเอที่ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ด้วย

โฆษกทีมเรือใบสีฟ้าประกาศว่า "คาร์ลอส เตเวซ กำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บเพื่อกลับมาช่วยทีมในนัดชิงที่เวมบลีย์วันที่ 14 พ.ค.นี้ แม้ว่าโอกาสสำหรับเขาจะไม่มากไม่น้อยกว่า 50/50 ก็ตาม"

สำหรับอาการของแข้งอื่นๆ นั้น เฌโรม บัวเต็งยังฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าเข่า ส่วนไมก้า ริชาร์ดส์ น่าจะกลับมาช่วยทีมได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า แต่เชย์ กิฟเว่น นายทวารจอมเก๋านั้นกลับมาซ้อมได้แล้ว

สัปดาห์ ที่อาจมีจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นได้เมื่อสองทีมที่ลุ้นแชมป์อย่าง แมนฯยูฯกับเชลซี ลงแข่งขันคนละวันและเวลา นั่นหมายความว่าผู้ชิงจังหวะชนะก่อนจะได้เปรียบก่อน โดยตามโปรแกรมนั้นเชลซีเตะวันเสาร์ ส่วนแมนฯยูฯวันอาทิตย์ หากเชลซีชนะสเปอร์สได้ก่อน



 ช่องว่างลดลงเหลือ 3 แต้มปล่อยให้แมนฯยูฯ พบกับความกดดันในการเตะกับอาร์เซนอลวันอาทิตย์นั่นเอง

เชลซี VS สเปอร์ส

เชลซี VS สเปอร์สวันเสาร์ที่ 30 เม.ย. เวลา 23.30 น.
 ต้นฤดูกาลที่ไวท์ฮาร์ทเลนเสมอกันมา 1-1 แต่การเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นเป็นตัวเลขที่แฟนตราไก่วิตกกังวลไม่ใช่น้อยๆ จำนวน 18 นัดในพรีเมียร์ลีกที่เดอะ บริดจ์ นับตั้งแต่เปลี่ยนจากดิวิชั่นหนึ่งเดิมเมื่อปี 1992 ปรากฏว่าเชลซีชนะ 12 เสมอ 6 โดยสเปอร์สบุกชนะสิงห์บลูล่าสุดเมื่อฤดูกาล 1989-90 เป็นดิวิชั่นหนึ่งเดิม
 นอกนั้นพวกเขาทำดีที่สุดคือเสมอเท่านั้นเอง

	เชลซี ชนะ	เสมอ	สเปอร์ส ชนะ
ลีกสูงสุด	52	30	43
ลีก คัพ	3	2	2
เอฟเอ คัพ	4	2	4
Total	59	34	49

สภาพทีม สิงห์บลู...ได้ทีมที่ลงตัวและสภาพทีมไม่มี ปัญหาอะไรมากแนวรับทุกคนพร้อมลงเล่นทั้ง ดาวิด ลุยส์, จอห์น เทอร์รี แดนกลางร่างกายของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไม่น่ามีปัญหาอะไร ขณะที่ รามิเรซ ไม่สมบูรณ์แต่ โอบี มิเกล ทำหน้าที่ได้ไม่ยาก ส่วน ตอร์เรส แม้ยิงได้ก็น่าจะเป็นตัวสำรองต่อไป
 สเปอร์ส...ตรวจร่างกายของ ทอม ฮัดเดิลส์ตัน หากผ่านได้ก็ลงไม่ได้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะซานโดร นักเตะบราซิลเล่นแทนได้ ขณะที่ เลนนอน ต้องลุ้นทดสอบความฟิตด้วยเช่นกัน ข้างหน้า เจอร์เมน เดโฟ ,พาฟลิวเชนโก เล่นด้วยกันได้อย่างไร้ปัญหา
กลยุทธ์ที่ผลที่คาด เชลซีฮึกเหิมและมั่นใจมากขึ้น แถมมีทีเด็ดข้างสนามอย่าง อเนลก้าและ ตอร์เรส รอเวลาลงมาเปลี่ยนเกมได้ โดย ดรอกบาคือผู้นำแนวรุก เล่นระบบ 4-3-3 ส่วนสเปอร์สนัดนี้น่าจะเล่น 4-5-1 โดยหวังดึงเกมให้รัดกุมมากที่สุด แต่ปัญหาของสเปอร์สเวลานี้คือการทำเกมรุก เจาะคู่แข่งได้ยาก
 ดูแล้วเชลซีจะครองเกมมากกว่า หาโอกาสปิดเกมสเปอร์สไม่ยาก จุดแข็งมีมากกว่า ส่วนสเปอร์สนั้นเริ่มล้าไปพอสมควร 20 นาทีสุดท้ายมียุบ มีแผ่วให้เห็น
 นัดนี้เชลซีชนะ 2-0

อาร์เซนอล VS แมนฯยูฯ

อาร์เซนอล VS แมนฯยูฯวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. เวลา 20.00 น
  แม้ว่าโอกาสลุ้นแชมป์ของอาร์เซนอลริบหรี่จนมองไม่เห็นแสงสว่างแต่เกม นี้ถือว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่พวกเขาจะยอมแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ง่ายๆ คงไม่ใช่ที่ ดังนั้นทุกอย่างต้องเต็มที่เล่นเพื่อชัยชนะหรือกระทั่งผลเสมอแล้วไม่แพ้ทีม ปีศาจแดงน่าจะเป็นสปิริตของชาวกันเนอร์ส ซึ่งแฟนบอลของพวกเขาคงอยากเห็นมากที่สุด
 อย่างไรก็ตามสถานะการณ์ทางฝั่งแมนฯยูไนเต็ดเวลานี้เต็มไปด้วยความคึกคัก มั่นใจ หลังจากผ่านชาลเก้ ในบอลแชมเปี้ยนส์ ลีกมาแบบไม่ยากลำบากอะไร พร้อมทั้งโชว์ฟอร์มสมราคาเล่นดีกว่าทั้งเกมและผลแข่งซึ่งน่าชนะมากกว่า 2 ลูกด้วยซ้ำ จากโอกาสที่แมนฯยูฯ ทำได้
 ลงสนามพบกับอาร์เซนอลนัดนี้อาจมีจุดที่ทำให้น่ากังวลใจอย่างเดียวคือพวก เขาจะลงสนามช้ากว่าเชลซี 24 ชั่วโมง โดยทีมสิงห์บลูนั้นพบกับสเปอร์สใน ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ หากเชลซีชนะได้ก่อนแต้มจะลดลงเหลือ 3 คะแนนอันมีผลเชิงจิตวิทยาด้วยเหมือนกัน
 เพราะผีแดงพลาดเสมอก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่....อาจหมายถึงแต้มที่หายไป 2 และจะทำให้เชลซีมีโอกาสลุ้นในสัปดาห์หน้ามากขึ้นกว่าเดิม

	แมนฯ ยูฯ ชนะ	เสมอ	อาร์เซนอล ชนะ
ลีกสูงสุด	75	42	66
ลีก คัพ	4	0	2
เอฟเอ คัพ	7	2	5
Total	86	44	60

สภาพทีม “ปีศาจแดง” พร้อมเต็มที่ไม่มีใครบาดเจ็บกลับมาและคาดว่า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น่าจะพร้อมเล่นเกมนี้โดยอาจมีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย ขณะที่ รูนีย์, ชิชาริโต และแนวรับ ริโอ, วีดิช น่าจะยืนเหมือนเดิม แดนกลางอาจปรับเปลี่ยน อันแดร์สัน น่าจะได้โอกาสเล่นตัวจริงแทน กิ๊กส์
 “ปืนใหญ่” ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีมมากเท่ากับสภาพจิตใจ เวลานี้ความมั่นใจหายไปเยอะ หากหวังจะเรียกและกอบกู้ศรัทธาคืนมาพวกเขาต้องล้มผีแดงให้ได้ โดยเกมนี้ตัวหลักๆอย่าง โรบิน ฟาน เปอร์ซีย์, ฟาเบรกาส, นาสรี ลงเล่นพร้อมหน้าพร้อมตา
กลยุทธ์และผลที่คาด แมนฯยูไนเต็ด อาจเล่นระบบ 4-4-2 แต่ไม่เครียดกับเกมมาก พวกเขาต้องการเล่นเพื่อไม่ให้แพ้ในนัดนี้ ส่วนปืนใหญ่จะเล่นระบบ 4-2-3-1 เน้นการผ่านบอลเท้าต่อเท้าเจาะตามช่องเหมือนเคย แต่คาดว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะดึงเกมช้าคอนโทรลเกมโดยบีบให้อาร์เซนอลเสียบอลแดนกลางเร็วที่สุด น่าจะมองเห็นจุดบอดในแนวรับของอาร์เซนอลที่หละหลวมและพลาดง่ายโดนโจมตีบ่อยๆ น่าเสียศูนย์ ดูแล้วเกมนี้ อาร์เซนอล เป็นรองทุกสภาพ เกมรับไม่น่าต้านทานเกมรุกของผีแดงได้
อาร์เซนอลน่าจะเจอผีบุกมาอัดคาถิ่น 2-0

ส่วนคู่อื่นๆ
วันเสาร์ 30 เม.ย. 11
Blackburn v Bolton เป็นดาร์บี้แมตช์ของละแวกแลงคาเชียร์ แถบภาคเหนือตอนล่างของอังกฤษ แบลคเบิร์นมีปัญหาเกมรุก เมื่อเทียบกับโบลตัน ซึ่งอาวุธครบมือกว่า ดูแล้วทีมเยือนขนะใสๆ
Blackpool v Stoke เจ้าบ้านดิ้นสุดชีวิตผลงานในบ้านไม่กระเตื้องเจอความกดดันต่างจากต้นซีซั่น ขณะที่สโตค ซิตี้ ซ้อมใหญ่ในการเล่นเอฟเอ คัพ ไม่กดดัน ทำให้เล่นง่ายแถมไม่ลุ้นเรื่องตกชั้นอีก น่าจะเล่นสบายกว่า ผลอาจไปเข้าทางแบลคพูล
Sunderland v Fulham ทีมเยือนผ่านเกมกลางสัปดาห์มา เจองานหนักที่บ้านของแมวดำ ความแกร่งของซันเดอร์แลนด์ บวกกับแนวรุกที่เริ่มคมกริบขึ้นจะทำให้ทีมของ สตีฟ บรูซ ชนะในเกมนี้
West Brom v Aston Villa เวสต์บรอมสู้ตายสุดๆ ส่วนวิลล่านั้น อุลลิเยร์ เข้าโรงพยาบาลรอบสองในชีวิตที่อังกฤษ ต้องใช้มือขวาทำงานแทน น่าจะเป็นเกมที่นักเตะพยายามเล่นเพื่อโค้ช คงสู้กันสนุก ดูแล้วโอกาสออกได้สามหน้าคู่นี้
Wigan v Everton วีแกนเล่นในบ้านใช้ได้ ขณะที่เอฟเวอร์ตัน น่าจะเรียกฟอร์มตัวเองกลับมาได้หลังโดนแมนฯยูฯ ต้อนตือนัดล่าสุด แม้แพ้ 0-1 แต่เกมสู้ผีแดงไม่ได้แถมรับตลอด แต่นัดนี้เจอทีมระดับเดียวกันน่าจะ สู้ได้ แต่โอกาสชนะไม่ง่ายเพราะ วีแกน ถอยหลังไม่ได้แล้ว
วันอาทิตย์ ที่ 1 พ.ค.
Birmingham v Wolverhampton จัดว่าเป็นดาร์บี้แมตช์ของภาคกลาง เบอร์มิงแฮม เสียฟอร์มนัดพบหงส์แดง นัดนี้ต้องเต็มที่ในบ้าน ส่วนวูล์ฟเล่นกลางสัปดาห์มา พลาดท่าโดนสโตค ซิตี้ ยิงกระจาย น่าจะปรับเกมได้ นัดนี้ดูแล้วแบ่งทีมละ 1 แต้ม
Liverpool v Newcastle หงส์แดงได้ความมั่นใจมากขึ้น แถมตั้งแต่ เคนนี ดัลกลิช คุมทีมเล่นในบ้านฟอร์มสดมาก นัดนี้เชื่อว่า แคร์โรลล์ อาจได้พบกับทีมเก่า และหงส์แดงสปิริตเยอะขึ้น น่าจะชนะนิวคาสเซิลได้
Man City v West Ham มาตรฐานแมนฯซิตี้เหนือกว่า แถมมีจังหวะเคี่ยวในเกมรุก ดูแล้วเวสต์แฮม ต้านไม่อยู่ น่าจะแพ้แบบขาดลอย

มานูเอล นอยเออร์

ปีเตอร์ ชไมเคิล ตำนานผู้รักษาประตูทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า มานูเอล นอยเออร์ นายด่านทีม “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก้ 04 คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้


นอยเออร์ เป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด มานาน โดยล่าสุดก็แสดงผลงานให้เห็นด้วยการเซฟอุตลุดในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมา และทำให้ได้รับเสียงช่ืนชมอย่างมาก รวมถึงจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันด้วย

ล่าสุดทางด้าน ชไมเคิล ได้รีบออกมาส่งเสียงสนับสนุนให้คว้าตัว นอยเออร์ มาให้ได้ “เขาเพิ่งจะอายุ 25 ปี และเป็นกัปตันทีมมาหลายปี เขาถือว่าโตแล้วสำหรับแนวทางการเล่น”

“เขาไ่เคยทำผิดพลาด ผมไม่ได้เห็นเขาทำพลาดเลย และผลงานของเขาเมื่อวันก่อน มันไม่ใช่เรื่องโชคเลยที่เซฟได้มากมายรวมถึงลูกดวลเดี่ยว มันเกิดจากการคำนวนหมดแล้ว”

“ผมคิดว่าผลงานของเขามันวิเศษมาก และเหมาะสมกับแมนฯ ยูไนเต็ด อย่างมาก”

โฆเซ่ เรน่า

โฆเซ่ เรน่า มือหนึ่งทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สยบกระแสข่าวลือการย้ายไปร่วมทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยยืนยันไม่มีความคิดแบบนั้นและมีความสุขในแอนฟิลด์ที่สุดแล้ว


เรน่า ตกเป็นข่าวลือมาตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าอาจจะย้ายออกจากแอนฟิลด์ตามหลัง เฟร์นานโด ตอร์เรส เพื่อนร่วมทีมที่ชิงลาไปก่อนแล้ว แต่ล่าสุดทางด้านประตูดีกรีทีมชาติสเปน ก็ออกมายืนยันว่าไม่คิดย้ายทีม โดยเฉพาะการย้ายไปคู่แข่งอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด

“ผมมีความสุข สงบ และสบายดีที่นี่”

“ผมมองไปถึงอนาคตและเห็นว่าคงจะมีความสุขมากและมีความหวังไปกับโปรเจ็คต์ใหม่ของเจ้าของใหม่ชาวอเมริกัน”

“ราฟา ดึงผมมาที่นี่ก็จริงแต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะไม่มีความสุขกับ ดัลกลิช ตรงกันข้าม ผมคิดว่าเขาคือคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลิเวอร์พูล ในเวลานี้”

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 04 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกมรอบตัดเชือกนัดแรก ชาลเก 04 ทีมกลางตารางจากบุนเดสลีกา เยอรมนี เปิดสนามเฟลตินส์ อารีนา ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนี้เจ้าถิ่นนำทัพโดย มานูเอล นอยเออร์ นายทวารทีมชาติเยอรมนีที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงเฝ้าเสา ส่วนคู่หัวหอกวาง ราอูล กอนซาเลซ ตัวเก๋าชาวสเปน เจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดในรายการนี้ 71 ลูกจาก 140 นัดล่าตาข่ายกับ เอดู กอนซัลเวส ด้านทีมเยือนส่ง ฟาบิโอ ดา ซิลวา ยืนแบ็กขวาแล้วให้ เวย์น รูนีย์ ประสานงานในแดนหน้ากับ “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ที่กำลังฟอร์มร้อนแรง

เริ่มเกมมาได้เพียง 31 วินาที “ราชันสีน้ำเงิน” มีโอกาสทักทายก่อน เมื่อ อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์ ลองซัดหน้าเขตโทษแต่ไม่ผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ล้มตัวรับติดมือ จากนั้น “ปิศาจแดง” ก็ตอบโต้ได้น่ากลัว 3 ที เริ่มจาก รูนีย์ ในนาทีที่ 3 ที่โยกหลบ อัตซุโตะ อุจิดะ แบ็กขวาชาวญี่ปุ่นแล้วปั่นโค้งจะเสียบสามเหลี่ยมถูก นอยเออร์ บินปัดสุดปลายมืออกไปได้ นาทีที่ 5 พาร์ค จี-ซอง ได้ส่องในเขตโทษ นอยเออร์ ล้มตัวเซฟได้ในจังหวะแรกก่อนที่จะป้องกันลูกโหม่งซ้ำของ ชิชาริโต ได้อีก ทว่าไลน์แมนจับล้ำหน้าหัวหอกเม็กซิกัน ถัดมานาทีเดียว อันโตนิโอ วาเลนเซีย ผ่านบอลจากกราบขวาให้ ชิชาริโต ล้มตัวซัดไม่ถนัด ลูกจึงเบาเข้ามือ นอยเออร์

ชาลเก ถูกกดดันหนักจึงพยายามเปิดเกมรุกขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่เฉียบขาด ผิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บุกแล้วได้เสียวตลอด นาทีที่ 14 พาร์ค จ่ายให้ ชิชาริโต หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษ แต่ นอยเออร์ ยังเหนียวหนึบล้มตัวคว้าลูกแปเล่นทางเอาไว้ได้อีก 6 นาทีให้หลัง ชิชาริโต ได้ซัดส่งลูกหนีมือ นอยเออร์ เฉี่ยวเสาแรกออกไป นาทีที่ 25 ชิชาริโต หลุดเข้าไปกึ่งยิงกึ่งผ่านก็ยังผ่านหน้าประตูออกหลัง ถัดมา 2 นาที อาคันตุกะน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ กิกส์ โขกกดลงพื้นย้อนศร แต่ นอยเออร์ ที่ตัวถลำไปแล้วยังปัดได้ด้วยมือขวาข้างเดียว

เกมตกเป็นของปิศาจแดงโดยสิ้นเชิง นาทีที่ 35 ชิชาริโต ที่วันนี้มีโอกาสสับไกหลายหนพลิกเข้าไปกดในเขตโทษ นอยเออร์ พุ่งปัดมาเข้าทาง พาร์ค ซ้ำดาบสอง แต่ อุจิดะ ล้มตัวบล็อกได้ที่หน้าประตู 5 นาทีให้หลัง ราชันสีน้ำเงินได้ลุ้นบ้างจากการยิงไกลของ เบาม์โยฮันน์ แต่ก็ไม่เกินกำลังของ ฟาน เดอร์ ซาร์ จากนั้นนาทีที่ 45 ทีมเยือนเกือบขยับสกอร์นำได้อีกหน เมื่อ กิกส์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ นอยเออร์ ที่วันนี้เซฟอุตลุดยังออกมาบล็อกได้ไวอีก จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลังก็ยังคงเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ขึงเกมรุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 47 กิกส์ เปิดฟรีคิกมาที่เสาแรก ไมเคิล คาร์ริค ได้โหม่งถูก นอยเออร์ โดดปัดข้ามคาน นาทีต่อมา กิกส์ ล็อกหลบกองหลังชาลเกที่เข้ามาสกัดทีเดียว 2 คน ทว่ากลับยิงด้วยขวาออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง นาทีที่ 51 ชิชาริโต ได้ล้มตัวหวดผ่านมือ นอยเออร์ เข้าไปตุงตาข่ายเป็นครั้งแรก แต่ไม่เป็นประตูเนื่องจาก “เจ้าถั่วน้อย” ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนที่บอลจะมาถึง จากนั้นนาทีที่ 52 ชาลเก พลาดโอกาสที่นานๆ จะมีสักที เมื่อ โฆเซ ฆูราโด ได้เก็บตกซัดในเขตโทษหลุดกรอบออกไปเอง

ราล์ฟ รังนิก กุนซือราชันสีน้ำเงินเริ่มขยับตัวแก้เกมด้วยการส่ง เปียร์ คลูเก ลงไปแทน เบาม์โยฮันน์ ทว่าถึงนาทีที่ 67 ปิศาจแดงก็มาพังตาข่ายนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ รูนีย์ พาบอลหนีการสกัดของ คลูเก แล้วจ่ายทะลุช่องให้ กิกส์ หลุดเข้าไปแปลอดขา นอยเออร์ บอลซุกก้นตาข่ายท่ามกลางความสะใจของสาวกเรด อาร์มี จากนั้นนาทีที่ 69 ชิชาริโต ก็จิ้มผ่านช่องแนวรับเจ้าถิ่นให้ รูนีย์ ยิงตามน้ำผ่านมือ นอยเออร์ เข้าไปเป็น 2-0

หลังจากสกอร์นำห่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ถอดเอาตัวเก่งอย่าง ชิชาริโต และ พาร์ค ออกมาพักแล้วส่ง อันแดร์สัน กับ พอล สโคลส์ ลงไปยืดเส้นยืดสาย ขณะที่เจ้าบ้านก็ส่งเอา เซอร์จิโอ เอสคูเดโร ลงไปแทน ฮันส์ ซาร์เป เพื่อเสริมเกมรุก ซึ่ง เอสคูเดโร ก็มีโอกาสสับไกลุ้นจากหน้าเขตโทษในนาทีที่ 80 แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ พุ่งรับได้ไม่หลุดมือก่อนที่ ชาลเก จะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง จูเลียน แดรกซ์เลอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งลงไปแทน ฆูราโด แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงบุกมาชนะ 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นนัดสองในบ้านตัวเองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันพุธที่ 4 พฤษภาคมนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ชาลเก 04 – มานูเอล นอยเออร์, อัตซุโตะ อุจิดะ, โจเอล มาติป, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, ฮันส์ ซาร์เป, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, คีริยากอส ปาปาโดปูลอส, โฆเซ ฆูราโด, อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์, เอดู กอนซัลเวส, ราอูล กอนซาเลซ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิกส์, พาร์ค จี-ซอง, เวย์น รูนีย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ

เอดิน เชโก้

เอดิน เชโก้ กองหน้าชาวบอสเนีย ของทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวังว่าประตูชัยที่ทำให้ทีมเด็ด “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีได้


เชโก้ ย้ายมาจากทีม “หมาป่า” โวล์ฟสบวร์ก ด้วยค่าตัวถึง 27 ล้านปอนด์ด้วยกัน แต่กลับประสบปัญหาไม่สามารถทำประตูได้เลยจนโดนเปรียบเทียบกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ทำประตูให้กับต้นสังกัดใหม่ไม่ได้หลังย้ายด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์

แต่จากประตูปลดล็อกที่ทำได้ในเกมเมื่อคืนก็ทำให้ เชโก้ หวังว่าจะสามารถแจ้งเกิดได้อีกครั้ง “นี่แหละคือฟุตบอล ตอร์เรส เคยยิงได้มากมายกับลิเวอร์พูล ก่อนจะย้ายทีม ผมยินดีกับเขาด้วยเพราะผมรู้ว่ามันกดดันแค่ไหน”

“ตอนนี้เราต้องมองไปถึงอนาคต วันนี้เป็นวันที่ดีมากและเป็นการเริ่มต้นใหม่ของผม”

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 25 เม.ย. 54 | แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0 - 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 24 เม.ย. 54 | โบลตัน 2 - 1 อาร์เซนอล

คาร์ลอส เตเวซ

แฟนทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอข่าวช็อกเมื่อทีมพร้อมที่จะปล่อยกัปตันทีม คาร์ลอส เตเวซ ออกไปหลังจบฤดูกาลนี้


กระแสข่าวสะเทือนใจของทีมแมนฯ ซิตี้ กลับมาอีกครั้งเมื่อมีรายงานว่าทางด้านทีมเศรษฐีแห่งอังกฤษ พร้อมจะโละกองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า ออกไปหลังจบฤดูกาลนี้ โดยมี “ม้าลาย” ยูเวนตุส” และ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ที่ให้ความสนใจอยู่

ก่อนหน้านี้ เตเวซ เคยสร้างความโกลาหลเมื่อประกาศขอย้ายทีมหลังการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ไม่ลุล่วง แต่ได้มีการกล่อมให้เปลี่ยนใจในเวลาต่อมาโดยประกาศในขณะนั้นว่าจะมีการพิจารณาสัญญาใหม่หลังจบฤดูกาล แต่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นแค่เกมซื้อเวลาก่อนจะรอย้ายทีมหลังจบฤดูกาลเท่านั้น

เกล็น จอห์นสัน

เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาจอมบุกทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยืนยันไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ย้ายมาเล่นในแอนิลด์ ยืนพร้อมฝากอนาคตไว้กับทีม


จอห์นสัน ย้ายจากพอร์ทสมัธ มาอยู่ในแอนฟิลด์ในระหว่างปี 2009 ด้วยค่าตัวกว่า 17 ล้านปอนด์ แต่ว่ายังไม่สามารถทำผลานได้ดังหวังแม้ว่าจะเป็นตัวหลักโดยตลอดแต่ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนเช่นกัน และเวลานี้ก็เริ่มมีการแข่งขันจากดาวรุ่งอย่าง มาร์ติน เคลลี่ และ จอห์น ฟลานาแกน

แต่ทางด้าน “จีเจ” ก็ยืนยันว่าไม่เคยเสียใจที่ย้ายมาลิเวอร์พูล “ไม่เลย ผมไม่เคยเสียใจ”

“ผมเห็นอนาคตของตัวเองที่นี่ ผมไม่เคยคิดในหัวเลยว่าผมตัดสินใจผิด”

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | วูล์ฟแฮมป์ตัน 1 - 1 ฟูแล่ม

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | ซันเดอร์แลนด์ 4 - 2 วีแกน

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | แบล็คพูล 1 - 1 นิวคาสเซิล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | สเปอร์ส 2 - 2 เวสต์บรอมวิช

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | แอสตัน วิลลา 1 - 1 สโตค ซิตี้

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | เชลซี 3 - 0 เวสต์แฮม

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | ลิเวอร์พูล 5 - 0 เบอร์มิงแฮม

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 เม.ย. 54 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1 - 0 เอฟเวอร์ตัน

ลูคัส เลวา

ลูคัส กองกลางทีมชาติบราซิลของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เกิดหลุดปากถึงอนาคตของ เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมว่าทุกอย่างได้มีการตกลงให้คุมทีมต่อในระยะยาวแล้ว


ดัลกลิช ตกลงเข้ามารับตำแหน่งเพื่อกอบกู้ทีมตั้งแต่ช่วงปีใหม่และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งก็ทำให้มีกระแสข่าวเรียกร้องให้จัดการต่อสัญญาแต่ทางด้านเจ้าของใหม่ก็ยังไม่ได้เร่งดำเนินการ จนเพิ่งจะเริ่มมีการเจรจาไม่นานมานี้

แต่ทางด้านลูคัส ก็เกิดหลุดปากมาว่าการเจรจาทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยแล้ว “เขาได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมากมาย และดูเหมืือนว่าตอนนี้เราก็แค่รอให้มีการประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น”

“ทุกคนมั่นใจว่าเขาจะได้อยู่กับเราในปีหน้า เราจะพยายามที่จะทำให้มันเป็นอย่างนั้นด้วยการชนะอีก 5 นัดที่เหลือ”

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องรอเช็คอาการของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าตัวหลักก่อนเกมที่จะพบกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน


เบอร์บาตอฟ มีอาการป่วยทำให้ไม่ได้ลงเล่นในเกมกลางสัปดาห์กับ  นิวคาสเซิล ซึ่งล่าสุดอาการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวหายไปแล้วแต่กลับมีอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบแทน ซึ่งต้องรอเช็คอีกครั้งว่าจะลงสนามได้หรือไม่

หากลงสนามไม่ไหวก็จะเป็น ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ ที่จะได้โอกาสลงสนามแทน โดยอีกรายที่เป็นข่าวดีบ้างก็คือ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ กองกลางที่ป่วยมานานกว่าเดือนตอนนี้กลับมาซ้อมได้อีกครั้ง และน่าจะลงสนามได้ในอีก 10 วัน ตามการยืนยันของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

“ดาร์เรน กลับมาซ้อมได้แล้วและน่าจะพร้อมในอีก 10 วัน”

“ราฟาเอล ก็กลับมาแล้ว เบอร์บาตอฟ มีอาการตึงที่ขาหนีบเล็กน้อย และเราต้องรอดูกันอีกที”

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 20 เม.ย. 54 | สเปอร์ส 3 - 3 อาร์เซนอล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 20 เม.ย. 54 | เชลซี 3 - 1 เบอร์มิงแฮม

คลาร์ก (ขวา) และ ดัลกลิช

สตีฟ คลาร์ก โค้ชทีมชุดใหญ่ ลิเวอร์พูล ยืนยันต้องการร่วมงาน เคนนี ดัลกลิช ระยะยาว เชื่อเป็นคนที่ใช่จะพาถิ่น แอนฟิลด์ กลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ดัลกลิช เข้ามากอบกู้สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ต่อจาก รอย ฮ็อดจ์สัน พาทีมไต่จากท้ายตาราง พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ทว่ายังมีสัญญาระยะสั้นจนถึงแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น พร้อมกับมีเสียงเรียกร้องให้บอร์ดบริหารเร่งผูกมัดด้วยสัญญาระยะยาว

คลาร์ก อดีตโค้ช เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด และ เชลซี เข้ามาทำงานเคียงข้าง ดัลกลิช เผยว่า "กุนซือทุกคนที่ผมร่วมงานด้วย ช่วยให้คุณได้รับสิ่งที่ดีๆ มากมายจากพวกเขา ผมได้สิ่งที่ยอดเยี่ยมจาก เคนนี มากมาย ก็หวังว่าจะได้ทำงานตรงจุดนี้ต่อไป ตอนนี้ทุกคนมองว่าทีมกำลังไปในแนวทางการเล่นที่ถูกต้องด้วยความมั่นใจอย่างสูง ตอนนี้เราต้องรักษาจังหวะเอาไว้"

ดัลกลิช ให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง จอห์น ฟลานาแกน และ จอห์น โรบินสัน ลงเล่นเกม พรีเมียร์ชิป บุกเสมอ อาร์เซนอล 1-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายนที่่ผ่านมา คลาร์ก มองว่าเป็นเรื่่องที่ยอดเยี่ยม

"ก่อน แจ็ค ลงสนาม เคนนี พยายามพูดตลกและผ่อนคลายก่อนลงสนาม โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เพราะเมื่อคนมีประสบการณ์อย่าง เคนนี พูดสิ่งที่ถูกต้องถูกที่ถูกเวลาสามารถช่วยได้" คลาร์ก ทิ้งท้าย

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร๋์ ยูไนเต็ด กล่าวโจมตีผู้ตัดสินอีกครั้งที่แจกใบเหลืองให้กับ ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ ในจังหวะล้มลงในเขตโทษทั้งที่เป็นจุดโทษชัดเจน


เฟอร์กี้ ออกมากล่าวโจมตีผู้ตัดสิน ลี โปรเบิร์ต ว่าตัดสินพลาดในจังหวะที่ชิชาริโต้ โดนแดนนี่ ซิมป์สัน ทำฟาวล์ในเขตโทษแต่ว่าผู้ตัดสินไม่เป่าให้และแจกใบเหลืองในจังหวะพุ่งล้ม ซึ่ง เฟอร์กี้ ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินดังกล่าว

“มันผิดก็เพราะเขาดันให้ใบเหลือง”

“ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ดีวันนี้ ผมคิดว่าเขาทำได้วิเศษเลย แต่เขาก็ทำให้ผิดหวังในการแจกใบเหลือง”

“ไม่แจกจุดโทษไม่เป็นไร แต่ดันมาให้ใบเหลือง มันแย่”

“จริงๆมันเป็นจุดโทษที่ชัดเจน ผมเองก็ได้ดูมาแล้ว มันมีการปะทะกันแน่นอนเรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย”

ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 4/20/2011 8:29:34 AM

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 19 เม.ย. 54 | นิวคาสเซิ่ล 0 - 0 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

เคนนี ดัลกลิช

คิง เคนนี ผู้จัดการทีมสุดเก๋ามั่นใจว่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ แม้กำลังจะโดน "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลทำสถิติแซงเป็นแชมป์ลีกสูงสุดในประเทศเพียงผู้เดียว


"คิง เคนนี" เชื่อหงส์ยังเบอร์ 1 ของอังกฤษ
จากที่ อาร์เซนอล เปิดรังทำได้แค่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 ในบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาจทำให้อาร์เซนอล ทำคะแนนไล่ แมนยูไม่ทัน เพราะว่าตามหลังแมนยูถึง 6 แต้มเชียวนะเว้ย ยังเหลือให้เตะกันอีก 6 นัดเท่านั้น ทำให้แมนยูมีโอกาสเป็นแชมป์ลีกสูงสุดถึง 19 สมัย แซงหน้า "หงส์แดง" (18 สมัย)

แต่ เคนนี ดัลกลิช อดีตนักเตะแห่งแอนฟิลด์ ก็ยังคิดว่า ลิเวอร์พูล ยังเป็นทีมที่สุดยอดเหนียวไก่ท่าแพอยู่เสมอ "เท่าที่ผมดูมา ไม่นับวงการฟุตบอลระดับโลกนะ ลิเวอร์พูลยังเป็นทีมที่สุดยอดแล้วในเกาะอังกฤษ แต่ผมก็ยังแปลกใจอยู่ ว่าทำไมเราไม่ได้แชมป์มานานมาก ตั้งแต่ปี 1991"

"ลิเวอร์พูล เกือบเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อสองปีก่อนในยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ เราทำได้ดีจนติดอยู่ในบิ๊กโฟร์ แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านไปถึงความสำเร็จได้ อย่างไรก็ดี ฤดูกาลนี้ในการพบกับ 4 ทีมหัวแถวของลีกทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี, อาร์เซนอล และ เชลซี เราทำคะแนนหล่นหายไปแค่ 2 แต้ม และก็มาสู้กับ อาร์เซนอล ได้ถึงที่นี่ (ลอนดอน)" คิง เคนนี ทิ้งท้าย

สำหรับ ลิเวอร์พูล ตอนนี้อยู่อันดับ 6 เตะไปแล้ว 33 นัด มีแค่ 49 คะแนน แทบจะหมดโอกาสลุ้นไปเตะยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เนื่องจากตามหลัง แมนฯ ซิตี้ (อันดับ 4) ห่างถึง 7 แต้ม และยังเตะมากกว่าหนึ่งนัด ทำให้ต้องไปลุ้นเตะยูโรปา ลีก แต่ก็มี "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมอร์ซีย์ไซด์ ไล่หลังมาติดๆ ในอันดับ 7

ดัลกลิช (เห็นหน้า) ปะทะคารม เวนเกอร์

เคนนี ดัลกลิช กุนซือ ลิเวอร์พูล ตะเพิด อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ อาร์เซนอล ไปให้พ้นหน้าด้วยคำรุนแรง 'p*** off' หลังเกม พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ที่ เอมิเรตส์ สเตเดียม จบลงแบบดรามาแบ่งแต้มกันไป 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา จากการตีข่าวของ "เดอะ ซัน"

ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษตีเสมอ 1-1 จาก เดิร์ก เคาท์ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 101 ย่างเข้านาที 102 ทั้งที่ชูป้ายข้างสนามบวกเวลาเพิ่มแค่ 8 นาที ทำเอา อาร์เซนอล ไม่พอใจทั้งที่น่าจะกำชัยจากจุดโทษนาที 97 ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี หลังเกมแม้กุนซือทั้งสองฝ่ายเดินเข้ามาจับมือแต่ก็มีปะทะคารมกัน

ทว่าเป็น ดัลกลิช นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ที่ไล่ เวนเกอร์ ด้วยคำหยาบ 'p*** off' พร้อมให้สัมภาษณ์หลังเกมยืนยันได้จุดโทษแบบบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซนต์ "ผมไม่ต้องการพูดซ้ำซาก เพราะคงเศร้ามากไม่น้อยหากสิ่งที่ลูกทีมผมกระทำในวันนี้ต้องถูกบดบังอยู่ในเงามืดถ้าเรากลับออกไปพร้อมกับมือเปล่า ในมุมมองผมเป็นจุดโทษแน่นอน ผมผิดหวังที่ อาร์เซนอล ได้จุดโทษเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถโต้เถียงได้"

ส่วน อาร์เซนอล เวลานี้โอกาสคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป ลดน้อยลงไปอีกเมื่อตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 แต้ม ขณที่เหลือเกมอีก 6 นัด เวนเกอร์ เผยว่า "ผมเดินไปบอก ดัลกลิช ว่าไม่ใช่จุดโทษแน่นอน คุณสามารถเช็กภาพช้าทางทีวีได้เลย รวมถึงดูสิ่งที่ออกมาจากปากเขาด้วย เราเสียจุดโทษหลังทดเวลา 11 นาทีทั้งที่ชูป้ายข้างสนามแค่ 8 นาที 3 นาทีที่เพิ่มขึ้นมานั้นมาจากไหน เอ็มมานูเอล เอบูเอ เข้าไปเล่นบอล แต่ ลูคัส เลวา หยุดอยู่ตรงหน้าเขาก็เท่านั้นเอง"

หลังจากนี้ แมนฯยู จะลงสนามบุกไปเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทำศึก พรีเมียร์ชิป วันอังคารที่ 19 เมษายนนี้ ส่วน อาร์เซนอล ลงเตะหนึ่งวันให้หลังทำศึก ลอนดอน ดาร์บี ไปเยือน ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2554 13:25 น.

© Reuters

เจมี่ คาร์ราเกอร์ ปราการหลังทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยืนยันยังปกติดีหลังจากที่ปะทะกับรุ่นน้องจนหมดสติในเกมที่บุกไปเสมอ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล


คาร์ราเกอร์ หมดสติไปในจังหวะที่ปะทะกับ จอห์น ฟลานาแกน แบ็กดาวรุ่งของทีมในจังหวะเล่นลูกกลางอากาศจนต้องปฐมพยาบาลอยู่นานและโดนเปลี่ยนตัวออกในที่สุดในสภาพที่มีทั้งเฝือกคอและเครื่องช่วยหายใจ

แต่กองหลังจอมเก่าก็ยืนยันหลังเกมจบว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไร “ผมจำอะไรไม่ได้เลย แต่ผมก็ยังสบายดี”

“มันเป็นแค่จังหวะศรีษะปะทะกัน เรื่องแบบนี้ปกติในเกมฟุตบอล”

“ผมลงไปในสนามในตอนสุดท้ายเพราะผมอยากจะฉลองกับเด็กๆในทีม”



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 4/18/2011 8:14:11 AM

© Reuters

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ยืนยันไม่รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุปะทะคารมกับ เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ด้วยความฉุนเฉียว เผยแค่โวยว่าลูคัส พยายามเรียกจุดโทษเท่านั้น


ในเกมสุดดุเดือดที่ อาร์เซนอล โดน ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอในการทดเวลาที่ยาวนานถึง 12 นาที ซึ่งในลูกจุดโทษที่ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ไปทำฟาวล์ลูคัส นั้นทางด้าน เวนเกอร์ ไม่เห็นด้วย ในขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมีการทดเวลาเพิ่มออกไปอีก

“ผมบอกกับ ดัลกลิช ว่ามันไม่ใช่จุดโทษ”

“มันก็เท่านั้น ไม่เชื่อก็ไปดูอีกรอบทางทีวี ผมรู้สึกว่าเราถูกโกง เราเสียจุดโทษหลังผ่านไป 11 นาที ซึ่งผู้ตัดสินก็บอกเองว่ามันทดเวลาแค่ 8 นาที ผมไม่เข้าใจว่าอีก 3 นาทีนั้นมันมาจากไหน และมันก็ไม่ใช่จุดโทษด้วย”



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 4/18/2011 8:13:51 AM

© Reuters

แกเร็ธ เบล ปีกเทวดาทีม “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ไปครองตามความคาดหมาย เช่นเดียวกับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีที่ แจ็ค วิลเชียร์ ได้รับไปครองในปีนี้


เบล ตกเป็นข่าวก่อนหน้าการประกาศรางวัลไม่นานว่าจะคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีไปครอง หลังได้รับการเสนอชื่อร่วมกับอีก 6 ยอดนักเตะ ซึ่งล่าสุดในการประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการปีกทีมชาติเวลส์ก็ได้รับรางวัลจริงๆจากการลงคะแนนให้โดยเพื่อนนักเตะอาชีพ ทำให้เป็นชาวเวลส์คนที่ 4 ที่ได้รับรางวัลนี้

ขณะที่ วิลเชียร์ ก็ได้รับรางวัลเกียรติยศในฐานะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายเนื่องจากทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมาโดยตลอดรอบปีจนถึงขั้นกลายเป็นตัวจริงทั้งในทีมอาร์เซนอล และทีมชาติอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว ทีมพรีเมียร์ลีกแห่งปี เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), บาการี่ ซาญ่า (อาร์เซนอล) แว็งต์ซอง กอมปานีย์ (แมนฯ ซิตี้), เนมันย่า วิดิช (แมนน ยูไนเต็ด), แอชลี่ย์ โคล (เชลซี), นานี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด), ซาเมียร์ นาสรี่ (อาร์เซนอล), แจ็ค วิลเชียร์ (อาร์เซนอล), แกเร็ธ เบล (สเปอร์ส), คาร์ลอส เตเวซ (แมนฯ ซิตี้), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (แมนฯ ยูไนเต็ด)



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 4/18/2011 8:14:33 AM

© Reuters

เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กล่าวสดุดีต่อสปิริตของลูกทีมที่ไม่ยอมแพ้จนสามารถไล่ตามตีเสมอ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ได้สำเร็จ


ลิเวอร์พูล สร้างปาฏิหารย์คาสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อพลิกสถานการณ์จากการเสียจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บและโดน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงเข้าไปในนาทีที่ 98 กลับมาตีเสมอได้จากจุดโทษของเดิร์ค เคาท์ ในนาทีที่ 102

นอกจากนี้ระหว่างเกมทีมต้องเสีย ฟาบิโอ ออเรลิโอ, แอนดี้ แคร์โรลล์ รวมถึงเจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่บาดเจ็บทั้งหมด ถึงขั้นต้องส่งแจ็ค โรบินสัน และจอห์น ฟลานาแกน แบ็กดาวรุ่งลงสนามแทนอีกด้วย ทำให้ดัลกลิช ต้องออกมากล่าวสดุดีฟอร์มของลูกทีม

“ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำในที่สุดนั้นคือรางวัลตอบแทนความพยายาม”

“เราเสีย 2 นักเตะไป และเราก็ต้องส่ง 2 ดาวรุ่งลงไปประจันหน้ากับทีมที่กำลังล่าแชมป์”

“เรายังตั้งใจที่จะเอาอะไรกลับมาให้ได้ในเกมนี้และเราก็พยายามต่อไป”



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 4/18/2011 8:14:02 AM

© Reuter

ทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ดวงไม่ถึงแชมป์เมื่อนึกว่าได้เฮแล้วจากการยิงจุดโทษเข้าไปของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ยาวนาน 8 นาที แต่สุดท้ายกลับมาเสียจุดโทษในนาทีที่ 100 และโดนเดิร์ค เคาท์ ซัดดับฝันแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างไม่เป็นทางการเรียบร้อย


อาร์เซนอล 1-1 ลิเวอร์พูล
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ประตู :
1-0 ฟาน เพอร์ซี่ 96
1-1 เคาท์ 100
“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ลงสนามในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อหน้าสแตน โครเอนเก้ ว่าที่เจ้าของใหม่อย่างเป็นทางการ ในเกมสำคัญรับมือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่อาร์แซน เวนเกอร์ ประกาศชัดว่าต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นเพื่อรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์

และเริ่มเกมมาทางด้าน อาร์เซนอล ที่ขนชุดใหญ่มาเต็มๆทั้ง เซสก์, นาสรี่, ฟาน เพอร์ซี่ รวมถึง วัลค็อตต์ ก็เดินเครื่องใส่ทันทีโดยได้ลุ้นเร็วจากลูกตั้งเตะ อาบู ดิยาบี้ ได้ขึ้นโหม่งบอลตรงหน้าประตูแต่ว่าบอลผ่านเสาไกลออกไปแบบได้ลุ้น

แต่หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล เกือบจะได้จุดโทษในจังหวะที่ เจย์ สเปียริง โดน โยฮัน ฌูรู เสียบล้มคว่ำในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้ ก่อนที่จะได้ลุ้นอีกรอบจากฟรีคิกระยะ 25 หลา แต่หลุยส์ ซัวเรซ ก็ซัดไปเข้าซองซีเชสนี่

ทว่าหลังจากนั้นเกมเป็นของเจ้าบ้านทั้งหมด โดยในนาทีที่ 10 วัลค็อตต์ สบโอกาสได้ส่องไกลจากระยะ 25 หลาทำเอา โฆเซ่ เรน่า ต้องปัดบอลออกไปเพราะไม่มั่นใจในวิถีบอลที่ส่ายชัดเจน

ต่อมาอีก 6 นาที อาร์เซนอล ใกล้เคียงได้ประตูขึ้นนำที่สุดเมื่อโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปิดเตะมุมเข้ามา เรน่า ออกมาตัดบอลพลาดลูกเลยมาถึง กอสเซียลนี่ ได้โขกเต็มๆแต่บอลไปชนคานดังสนั่นลั่นทุ่ง

เกมผ่าน 20 นาทีมาไม่นาน ลิเวอร์พูล เจอข่าวร้ายซ้ำเมื่อ ฟาบิโอ ออเรลิโอ แบ็กบราซิลเลียนเกิดบาดเจ็บอีกครั้งทำให้ต้องโดนเปลี่ยนตัวออกให้ แจ็ค โรบินสัน เจ้าหนูดาวรุ่งลงสนามมาแทน

และ โรบินสัน ก็เป็นหนึ่งในจุดอ่อนที่โดนเล่นงานโดยตลอดจาก วัลค็อตต์ ที่พยายามสร้างความปั่นป่วน แต่เจ้าหนูวัย 17 ปีก็พยายามทำหน้าที่ได้อย่างดีสุดความสามารถ ทำให้ ลิเวอร์พูล ที่โดนบุกกระหน่ำยังยันรักษาสกอร์ 0-0 เอาไว้ได้จนจบครึ่งแรก

เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เริ่มสู้ได้ดีขึ้นโดยสามารถเซ็ตบอลขึ้นมาได้บ้าง และมีจังหวะซัดไกลของ ราอูล เมยเรเลส จากระยะ 30 หลาแต่บอลพุ่งหลุดกรอบไป แต่หลังจากนั้นทีมเยือนเจอข่าวเศร้าไปอีกเมื่อ เจมี่ คาร์ราเกอร์ บาดเจ็บในจังหวะโหม่งบอลแล้วปะทะเข้ากับ จอห์น ฟลานาแกน รุ่นน้องแบบเต็มๆ ต้องปฐมพยาบาลหลายนาทีถึงขั้นใส่เฝือกคอและเครื่องช่วยหายใจ สุดท้ายโดนเปลี่ยนตัวออกไปอีกคนและเป็น คีร์เกียกอส ลงสนามแทน

แต่ช่วงจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็ปักหลักกันได้ดีโดยเฉพาะในช่วงที่โดนกระหน่ำหนักใน 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา ซึ่ง อาร์เซนอล บุกมาเป็นชุดๆและน่าจะได้เมื่อ นาสรี่ จ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเดี่ยวไปดวลกับ เรน่า แต่ว่าซัดไปติดเซฟ บอลไปถึง เบนดท์เนอร์ ขอซ้ำ เรน่า ก็ยังเซฟได้อีกครั้ง

ลิเวอร์พูล เองก็แอบมีลุ้นจากหลุยส์ ซัวเรซ ที่ได้หลุดเข้าเขตโทษช่วงก่อนหมดเวลาแต่ตัดสินใจยิงมุมแคบไปเข้าหน้าต่าง ก่อนที่เกมจะเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ยาวนาน 8 นาที เพราะระหว่างครึ่งหลังต้องหยุดพักนานในการปฐมพยาบาลคาร์ราเกอร์

และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในช่วงการทดเวลานี้เองเมื่อลิเวอร์พูล มาพลาดเสียจุดโทษในนาทีที่ 96 จากจังหวะที่ เจย์ สเปียริง ไปทำฟาวล์ในเขตโทษแบบไม่น่าเสีย ก็เลยโดน ฟาน เพอร์ซี่ สังหารเข้าไป

ประตูนี้เหมือนจะปลุกความหวังในการลุ้นแชมป์ของอาร์เซนอลกลับมาแล้ว แต่เกมฟุตบอลอะไรมันก็เกิดขึ้นได้จริงๆ เมื่อลิเวอร์พูล ยังไม่ยอมแพ้บุกขึ้นมาและเชลวีย์ มาเรียกฟรีคิกตรงหน้าเขตโทษพอดี ซัวเรซ ซัดไปแฉลบกำแพงซึ่งก็นึกว่าเกมจะจบแล้วแต่ผู้ตัดสินยังให้เล่นต่อเพราะบอลยังไม่ตาย

ลูกลอยโด่งในเขตโทษและเป็น เอบูเอ้ ที่ทะเล่อทะล่าไปผลักใส่ ลูคัส ล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที และเป็น เดิร์ค เคาท์ ที่สังหารเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ในเกมสุดดราม่าที่ดับฝันของอาร์เซนอลแทบจะทันที และลิเวอร์พูล ก็เหมือนส่งมอบตำแหน่งทีมอันดับหนึ่งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 19 ด้วยในเวลาเดียวกัน



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 4/18/2011 12:44:44 AM

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 16 เม.ย. 54 | เอฟเวอร์ตัน 2 - 0 แบล็คเบิร์น