แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 โวล์ฟบวร์ก


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 โวล์ฟบวร์ก

UEFA CHAMPIONS LEAGUE
1 ตุลาคม 2015 • 1:45 • Old Trafford, Manchester
ผู้ตัดสิน: ว. คาสไซ • ผู้ชม: 7481


4' CALIGIURI 0-1 // 34' MATA (PEN.) 1-1 // 53' CHRIS SMALLING 2-1

ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแรก กลุ่ม B
แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 โวล์ฟสบวร์ก


มิดฟิลด์สแปนิชกลายเป็นพระเอกในเกมนี้ หลังยิง 1 จ่าย 1 พาปีศาจแดงพลิกจากที่โดนหมาป่าเมืองเบียร์นำไปก่อน แซงกลับมาเอาชนะได้หวุดหวิด

หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือเจ้าบ้าน ปรับทัพจากเกมลีกล่าสุดที่ถล่มซันเดอร์แลนด์ 3-0 เพียงแค่รายเดียวเท่านั้น คือ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่ได้โอกาสยืน 11 คนแรกแทน ไมเคิล คาร์ริค ซึ่งบาดเจ็บและไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรองด้วย ด้านแนวรุกยังเป็นสี่ประสานหน้าเดิมทั้ง ฆวน มาต้า, เมมฟิส เดปาย, เวย์น รูนีย์ และ อ็องโตนี มาร์กซิยาล

ด้านทีมเยือนของ ดีเตอร์ เฮคคิงก์ เปลลี่ยนตัวผู้เล่นจากนัดก่อนในบุนเดสลีกาที่เปิดบ้านเสมอฮันโนเวอร์ 1-1 แค่หนึ่งรายเช่นเดียวกัน คือ แม็กซิมิเลียน อาร์โนลด์ ที่ได้โอกาสลงเป็นตัวจริงแทน อังเดร ชูร์เล โดยจะฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่กองหน้าตัวเป้าอย่าง บาส ดอสท์ ซึ่งจะประสานร่วมกับ ดาเนียล คาลิกูรี และ ยูเลียน แดร็กซ์เลอร์

เริ่มเกมได้เพียง 4 นาทีเท่านั้น เสียงเชียร์ของเหล่าเร้ดส์ อาร์มีในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดกลับต้องเงียบกริบ เมื่อโวล์ฟสบวร์กสามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ มักซ์ ครูเซ ไหลเข้าช่องให้ คาลิกูรี หลุดกับดักล้ำหน้าไปยิงสวนตัว ดาบิด เด เฮอา เข้าไป ส่งให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0

ถัดมานาทีที่ 12 แมนฯยูฯเกือบจะตีเสมอได้ จากจังหวะที่ มัตเตโอ ดาร์เมียน เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ มาต้า ได้ปั่นด้วยซ้าย บอลจะโค้งเสียบเสาไกลอยู่แล้ว แต่ยังโดน ดานเต้ พุ่งโหม่งทิ้งข้ามคานไปหวุดหวิด

จากนั้นนาทีที่ 25 ปีศาจแดงมีโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล กระชากหนี ริคาร์โด้ โรดริเกวซ ไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนจะผ่านเข้ากลางให้ รูนีย์ แปโด่งข้ามคานไปแบบน่าผิดหวัง

แต่แล้วในนาทีที่ 34 เจ้าบ้านก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ คาลิกูรี เจตนาทำแฮนด์บอลในกรอบ 18 หลา ก่อนจะเป็น มาต้า รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 1-1 ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลังปีศาจแดงตัดสินใจแก้เกมทันที ด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ส่ง แอชลีย์ ยัง ลงมายืนเป็นแบ็คขวาแทน อันโตนิโอ วาเลนเซีย จนกระทั่งนาทีที่ 53 ก็มาพลิกขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ มาต้า ใช้ความสามารถเฉพาะตัว จ่ายดีดลูกส้นกลับหลังกลางอากาศให้ คริส สมอลลิง หลุดกับดักล้ำหน้าพุ่งชาร์จจ่อๆเข้าไป ส่งให้แมนฯยูแซงนำ 2-1

หลังจากตกเป็นฝ่ายตามหลังได้เพียงนาทีเดียว ทัพหมาป่าเมืองเบียร์ก็เกือบจะตีเสมอได้ทันที จากจังหวะที่ คาลิกูรี ได้ลองส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษ แต่ยังโดน เด เฮอา พุ่งปัดทิ้งออกข้างได้อย่างยอดเยี่ยม

จากนั้นนาทีที่ 62 เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวสำรองคนที่สอง ส่ง อันเดรียส เปเรย์รา ดาวรุ่งชาวบราซิลลงมาสัมผัสเกมฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรก โดยลงมาแทนที่ของ เดปาย ซึ่งยังโชว์ฟอร์มไม่ออกเหมือนเดิม

8 นาทีต่อมา โวล์ฟสบวร์กแก้เกมบ้าง เปลี่ยนสองคนรวดส่ง ชูร์เล และ นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงมาแทน อาร์โนลด์ และ ดอสท์ ส่วนแมนนยูฯเปลี่ยนคนสุดท้ายส่ง ฟิล โจนส์ ลงมาแทน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์

หลังจากนั้นแม้ว่าทัพหมาป่าเมืองเบียร์จะพยายามบุกหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เฉือนชนะไปแบบหืดจับ 2-1 เก็บสามแต้มแรกในศึกยูซีแอลฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , คริส สมอลลิง , เดลีย์ บลินด์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , มัตเตโอ ดาร์เมียน , เมมฟิส เดปาย , ฆวน มาตา , เวย์น รูนีย์ , มอร์แกน ชไนเดอร์แลง , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , อองโตนี มาร์กซิยาล
โวล์ฟสบวร์ก : ดีเอโก เบนาโญ , คริสเตียน ทราสช์ , ดานเต , นัลโด , ริคาร์โด โรดริเกวซ , ดาเนียล คาลิกูรี , จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ , มักซ์ ครูเซ , โจชัว กิลาโวกี , มักซิมิเลียน อาร์โนลด์ , บาส ดอสท์

พีเอสวี 2 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

พีเอสวี  2 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

พีเอสวี 2 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

UEFA CHAMPIONS LEAGUE
16 กันยายน 2015 • 1:45 • ฟิลลิปส์ สเตเดียม, Eindhoven
ผู้ตัดสิน: น. ริซโซลี่ • ผู้ชม: 35292


41' Memphis Depay 0-1 // 45' Hector Moreno 1-1 // 57' Luciano Narsinggh 2-1


แม้ปีศาจแดงจะขึ้นนำไปก่อน แต่สุดท้ายกลับเป็นพีเอสวีที่ยิงแซงสองลูกรวดพลิกกลับมาชนะไปหวุดหวิด ในเกมที่ ลุค ชอว์ โชคร้ายขาหักอย่างรุนแรง

ฟิลลิป โคคู กุนซือเจ้าบ้าน ยึด 11 คนแรกชุดเดิมจากเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ซึ่งบุกไปถล่มเอสซี คัมบูร์ถึง 6-0 ลงเล่นทั้งหมด ในระบบ 4-3-3 โดยวาง ลูค เดอ ยอง ดาวยิงกัปตันทีมยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมกับมีสองปีกตัวจี๊ดอย่าง ลูเซียโน นาร์ซิงก์ และ แม็กซิเม เลสไตน์เน ขนาบน้างคอยช่วยเกมรุกริมเส้นทั้งสองฝั่ง

ด้านทีมเยือนของ หลุยส์ ฟาน กัล ตัดสินใจให้โอกาส อ็องโตนี มาร์กซิยาล หอกดาวรุ่งค่าตัวแพงที่เพิ่งจะซัดประตูสุดสวยในเกมแดงเดือด ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรก โดยจะประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เมมฟิส เดปาย ที่ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้ง และสองมิดฟิลด์จอมเทคนิคอย่าง ฆวม มาต้า กับ แอชลีย์ ยัง

เริ่มเกมไปได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น แมนฯยูฯกลับต้องมาพบข่าวร้ายที่ไม่มีใครอยากเกิดขึ้น เมื่อ ลุค ชอว์ ไปปะทะ เอคตอร์ โมเรโน จนขาหักอย่างรุนแรง ทำให้ต้องรีบปฐมพยาบาลและหามออกจากสนามโดยด่วน ก่อนจะมีการเปลี่ยน มาร์กอส โรโฆ ลงมาเล่นแทน

จากนั้นเกมกลับมาสู้กันต่อหลังหยุดไปร่วม 10 นาที จนกระทั่งนาทีที่ 41 ปีศาจแดงก็มาพังประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ดาลีย์ บลินด์ จ่ายเข้าเขตโทษให้ เดปาย ใช้ความสามารถเฉพาะตัวล็อคหนีแนวรับพีเอสวีก่อนจะซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0 และถือเป็นการยิงทีมเก่าของเจ้าตัวด้วย

แต่ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ทีมแชมป์ลีกดัตช์ก็มาตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ เลสไตน์เน เปิดให้ โมเรโน ขึ้นโขกไปแฉลบศีรษะของ มาต้า เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 1-1 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมกลับตาลปัตร เมื่อเป็นพีเอสวีที่พลิกขึ้นนำบ้าง ในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ อันเดรส กวาร์ดาโด้ หวดบอลจากกลางไปริมเส้นฝั่งซ้ายให้ เลสไตน์เน เปิดเร็วเข้ากลางให้ นาร์ซิงก์ โหม่งเต็มหัวเข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่งให้เจ้าบ้านแซงนำ 2-1

หลังจากนั้น แม้ว่าแมนฯยูฯจะพยายามเปิดเกมบุกอย่างหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ แต่ก็กลับจบสกอร์กันไม่เฉียบคมเอง ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นพีเอสวี ไอนด์โฮเฟนที่เฉือนชนะไปหวุดหวิด 2-1 เก็บสามแต้มประเดิมศึกยูฟ่า แชมปเปี้ยนส์ ลีก 2015-2016 ได้สำเร็จ

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 28 พ.ค. 54 | บาร์เซโลน่า 3 - 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 28 พ.ค. 54 | บาร์เซโลน่า 3 - 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด


1-0 Pedro 27'


1-1 Rooney 34'


2-1 Messi 54'


3-1 Villa 69'


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 28 พ.ค. 54 | บาร์เซโลน่า 3 - 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1-0 Pedro 27'
1-1 Rooney 34'
2-1 Messi 54'
3-1 Villa 69'

"เฟอร์กี้" เชื่อความเจนจัดนำชัยผี

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นของทีมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะช่วยให้ "ผีแดง" เป็นฝ่ายเอาชนะ บาร์เซโลนา ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก คืนวันเสาร์ที่ 28 พ.ค.นี้ หลังเคยแพ้แบบไร้ทางสู้ 0-2 ในรอบชิงดำเมื่อปี 2009

กุนซือชาวสกอตเปิดเผยก่อนเกมนัดสำคัญที่สนามเวมบลีย์จะเริ่มขึ้น โดยมองว่าผู้เล่นประสบการณ์สูงอย่าง เนมานยา วิดิช กัปตันทีมและ ริโอ เฟอร์ดินานด์ สองคู่เซนเตอร์ จะเป็นส่วนสำคัญในการต่อกรกับ บาร์เซโลนา รวมถึง เวย์น รูนีย์ กองหน้าตัวความหวังที่เติบโตขึ้นกว่า 2 ปีที่แล้ว

"ถ้าเราเล่นดีก็มีโอกาสและผมคิดว่าเรามีผู้เล่นหลายคนที่ชอบการแข่งขันนี้ เราเติบโตมากขึ้น ในส่วนของ รูนีย์ เขากลายมาเป็นผู้เล่นระดับยุโรป ซึ่งเติบโตขึ้นจากที่เขาเคยเป็นเมื่อปี 2009 คนอื่นก็เช่นกัน วิดิช และ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งมากประสบการณ์มีความสำคัญต่อเรา บาร์เซโลนามีคุณภาพมาก แต่ผมคิดว่าคุณภาพของเราจะแสดงให้เห็นเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้มันเป็นเกมที่ดี" เฟอร์กูสัน กล่าว

ยอดกุนซือวัย 69 ปียืนยันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เรียนรู้ความผิดพลาดจาก 2 ปีที่แล้วและพร้อมสู้กับแชมป์ลีกแดนกระทิง โดยกล่าวว่า "เราเน้นมากในครั้งนี้ ผมคิดว่าการเตรียมตัวดีขึ้นกว่าครั้งก่อน เราตระหนักถึงคุณภาพของคู่แข่ง รวมถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา เรายังให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเราเอง เรามี 2-3 สิ่งที่จะแสดงให้เห็นเพราะเรามีผู้เล่นที่สามารถทำสิ่งนั้นได้"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2554 01:35 น.

เผยแผนสอง 3-4-3! เฟอร์กี้สั่งผีลุยถ้าโดนยิงนำ

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สื่อในอังกฤษ เผยแผนลับทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเตรียมจะใช้ระบบการเล่นใหม่ในกรณีที่โดนทีม “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ยิงนำก่อนในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก คืนพรุ่งนี้



 “เดลี่ เทเลกราฟ” เผยถึงแผนที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้เตรียมพร้อมสำหรับการสู้ศึกกับบาร์ซ่า อดีตคู่ชิงในปี 2009 ที่เคยแพ้ราบคาบในเกมนัดชิงที่โรม โดยในระบบพื้นฐานจะเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ เฝ้าเสา ไลน์แบ็กโฟร์ประกอบด้วย ฟาบิโอ,เนมันย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า ส่วนแดนกลางมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์ และ พาร์ค ชี ซอง โดยมี เวย์น รูนี่ย์ และ ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ ยืนคู่กันในแดนหน้า
 แต่ในการซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้าน เฟอร์กี้ ได้ให้ นานี่ สวมบทเป็น ลิโอเนล เมสซี่ และไมเคิล โอเว่น รับบทเป็น ดาวิด บีญ่า โดยที่ได้เตรียมซ้อมแผนสองเอาไว้กรณีที่โดนยิงนำไปก่อนระหว่างเกม
 โดยถ้าโดนยิงไปก่อนเหมือนนัดชิงปี 2009 แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้ระบบ 3-4-3 โดยถอดพาร์ค ออกและให้คริส สมอลลิง มายืนในระบบกองหลัง 3 คน จากนั้นดันฟาบิโอ กับเอวร่า ยืนปีกและขยับ วาเลนเซีย ไปประสานงานแนวรุกร่วมกับ รูนี่ย์ และชิชาริโต้




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 9:57:32 PM

วาเลนเซียมาแรงยึดตัวจริงลุยบาร์ซ่า

อันโต นิโอ วาเลนเซีย
อันโต นิโอ วาเลนเซีย ปีกจรวดทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมพร้อมสำหรับเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า และกล่าวขอบคุณนายใหญ่เซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสัน ที่พยายามสนับสนุนมาโดยตลอด



 วาเลนเซีย ประสบเหตุถึงขั้นข้อเท้าหักในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เกมกับกลาสโกว์ เรนเจอร์ส จนเดิมคาดว่าอาจจะกลับมาเล่นในฤดูกาลนี้ไม่ได้หรือต้องแขวนสตั๊ด แต่ปีกจอมกระชากก็หายกลับมาฟิตสมบูรณ์และเป็นกำลังสำคัญของทีมอีกครั้ง ซึ่งมีข่าวว่าจะได้ลงเล่นในนัดชิงที่เวมบลีย์ด้วย
 “ผมกังวลเป็นเวลานานเลยทีเดียว”
 “ผมคิดถึงคนที่เคยเจ็บเหมือนกันและไม่สามารถจะเรียกฟอร์มกลับมาได้ หลายคนเล่นในระดับเดิมไม่ได้อีกเลย”
 “แต่ไม่ใช่สำหรับเจ้านาย รวมถึงผู้ช่วยไมค์ ฟีแลน ที่มาให้กำลังใจผมเช่นกัน พวกเขาไม่ได้มากำหนดเส้นตายอะไร แต่ว่าบอกให้ผมสบายๆ รักษาตัวให้พร้อมแล้วทุกอย่างจะดีเอง”
 “การที่ได้แรงสนับสนุนจากเขาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 9:54:30 PM

สโคลส์ฟันธงนัดชิง ชปล.ปีนี้สุดยอด

พอล สโคลส์
พอล สโคลส์ กองกลางจอมเก๋าทีม“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจว่านัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้จะเป็นเกมที่สุดยอดแน่นอน



 สโคลส์ กำลังลุ้นจะลงสนามในเกมนัดชิงที่เวมบลีย์ ที่จะรับมือกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า โดยที่กองกลางจอมเก๋าซึ่งมีข่าวว่าอาจประกาศอำลาสนามหลังจบเกมนี้ชี้ว่านัด ชิงนี้ถือว่าเป็นการเจอกันของสองทีมที่ดีที่สุดแล้ว
 “ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือเกมนัดชิงของสองทีมที่ดีที่สุด”
 “บาร์เซโลน่า คือสุดยอด พวกเขาคือต้นแบบของทีมที่เราอยากจะเป็นและเล่นให้ได้แบบนั้น”
 “แต่ฟุตบอลของเราก็ดีเทียบเท่าพวกเขาเหมือนกัน เราเองก็มีดีเยอะเหมือนกัน”




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 9:54:26 PM

ปาร์คโวเล่นเวมบลีย์เหมือนเล่นในบ้าน

ปาร์ค จี ซุง
ปาร์ค จี ซุง กองกลางเกาหลีใต้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงคุยโวว่าทีมปีศาจแดงคุ้นเคยกับการเล่นในสนามเวมบลีย์มาก ทำให้พร้อมแล้วที่จะจัดการบาร์เซโลน่า คู่แข่งนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกในสังเวียนแข้งแห่งนี้



ปาร์ค กล่าวถึงเกมชปล.นัดชิงกับบาร์ซ่าวันเสาร์นี้ว่า "มันอยู่ในอังกฤษ เพราะฉะนั้นถือว่าบาร์เซโลน่าเป็นทีมเยือน ทีมเราเตะที่เวมบลีย์บ่อยจนเหมือนเป็นบ้านของเราเอง และหวังว่าเราจะยังทำสถิติเล่นในบ้านได้ดีเหมือนเดิม"
"หากผมได้ลงเล่น และเราชนะเกมนี้ได้ คงเป็นสิ่งที่สุดยอดมากสำหรับผม มันคือความฝัน ผมจะทุ่มเกินร้อยเพื่อให้ฝันเป็นจริงให้ได้"
"การพลาดลงสนามนัดชิงไปหนึ่งครั้ง และแพ้ในอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ผมกระหายที่จะได้มีส่วนและเอาชนะในเกมนี้"




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 11:03:25 AM

ชิชาริโต้รับเหลือเชื่อจะได้เล่นนัดชิงที่เวมบลีย์

ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" หัวหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยไม่อยากเชื่อว่าตนจะมีโอกาสได้ลงสนามในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาร์เซโลน่า ที่สนามเวมบลีย์ วันที่ 28 พ.ค. นี้



กองหน้าวัย 22 ปี ที่เพิ่งย้ายมาเล่นให้ "ปีศาจแดง" ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ไปครอง หลังกดไป 13 ประตูจาก 27 นัดในลีก และคาดว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงคู่กับเวย์น รูนี่ย์ ในเกมวันเสาร์นี้ด้วย
"มันเป็นสนามที่สำคัญมาก ทุกคนในโลกต่างก็รู้จักเวมบลีย์ดี" ชิชาริโต้ กล่าวผ่านเว็ปไซต์ของยูฟ่า
"เมื่อคุณพูดถึงเวมบลีย์ คุณกำลังพูดถึงฟุตบอล พูดถึงประเทศอังกฤษ พูดถึงพรีเมียร์ลีก ประวัติศาสตร์และตำนานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสนามแห่งนี้ มันเป็นสนามที่สำคัญมากๆ"
"และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือนี่เป็นปีแรกของผมกับสโมสรใหม่ และผมก็จะได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามแห่งนี้ มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อจริงๆ" ดาวเตะชาวเม็กซิกัน ทิ้งท้าย




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/26/2011 9:17:31 PM

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs ชาลเก้ 04

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs ชาลเก้ 04
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs ชาลเก้ 04

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs ชาลเก้ 04
1 - 0 วาเลนเซีย น.26

2 - 0 กิ๊บสัน น.31

2 - 1 จูราโด น.35

3 - 1 แอนเดอร์สัน น.72

4 - 1 แอนเดอร์สัน น.76

ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 ชาลเก้ 04

ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 ชาลเก้ 04
ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 ชาลเก้ 04
ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 4 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 ชาลเก้ 04
"ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด พักผู้เล่นตัวหลักหลายคน แต่ก็ยังเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไล่ต้อนเอาชนะ ชาลเก04ไปขาดลอย 4-1 ศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธ(4) รวมผล 2 นัด แมนฯยูไนเต็ด คว้าชัย 6-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ บาร์เซโลนา

แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ ชาลเก 04 หลังจากบุกเอาชนะมาก่อน 2-0 สำหรับเกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีการปรับเปลี่ยนทีมตัวจริงจากเกมแรกถึง 9 ตำแหน่ง พอล สโคลส์ คอยคุมแดนกลาง ส่วนแนวรุก นานี ทำเกมทางริมเส้นร่วมกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย โดย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ยืนหน้าเป้า ทางฝั่งทีมเยือนของ ราล์ฟ รังนิก จัดทัพเต็มสูบ ราอูล กอนซาเลส หัวหอกจอมเก๋าเป็นตัวความหวัง

ทั้งสองทีมทำเกมสู้กันอย่างสูสีหลังจากเริ่มครึ่งแรก ชาลเก ได้ทักทายก่อนในนาที 8 จากลูกยิงนอกเขตโทษของ เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน หลุดเสาสองเล็กน้อย อีก 5 นาทีถัดมา ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ โชว์ทักษะแตะหลบกองหลังทีมเยือนจนหลุดถึงเส้นหลังก่อนเปิดเข้ากลางแต่ถูก มานูเอล นอยเออร์ ตัดไว้ได้ตรงเสาแรก

เกมผ่านมาถึงนาที 26 จากความผิดพลาดของอาคันตุกะที่จ่ายบอลเสียกลางสนาม แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดบอลมาได้ก่อนที่บอลมาถึง ดาร์รอน กิบสัน ซึ่งแทงบอลทะลุช่องให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงลอดขา นอยเออร์ ซุกก้นตาข่าย ผีแดง นำ 1-0

ชาลเก พยายามตอบโต้กลับในนาทีถัดมา ราอูล ได้ขึ้นโหม่งในกรอบเขตโทษ แต่บอลเบาเกินไปเข้ามือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ รับสบาย โอกาสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งสดใสอีกเมื่อทำประตูหนีห่าง 2-0 ในนาที 32 จากจังหวะที่ กิบสัน สับไกยิงจากนอกเขตโทษแล้ว นอยเออร์ รับบอลพลาดปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป

ทีมเยือนมีความหวังเล็กน้อยในอีก 3 นาทีเมื่อตีไข่แตกไล่มา 1-2 เริ่มจากความผิดพลาดของ คริส สมอลลิง ที่เปิดบอลจากหน้าเขตโทษไม่ดีถูกตัดไว้ได้ ก่อนที่ อัตซึโตะ อูชิดะ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวาแล้วเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ แนวรับของเจ้าถิ่นโหม่งเคลียร์ทิ้งไม่เด็ดขาดอีกบอลมาเข้าทาง โฆเซ ฆูราโด ซัดตูมเดียวผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไป

แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบทำสกอร์ขยับหนีห่างอีกลูกในนาที 36 หลังจาก วาเลนเซีย ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ นอยเออร์ ปีกชาวเอกวาดอร์โยกหลบก่อนซัดมุมแคบ แต่บนเส้นประตูมี เบเนดิกท์ โฮเวเดส เตะเคลียร์ออกไปแบบหวุดหวิดทำให้จบ 45 นาทีแรก ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำ 4-1 เมื่อรวมผลสองนัด

เกมครึ่งหลัง ชาลเก เติมเกมบุกด้วยการส่ง เอดู ลงมายืนล่าตาข่ายกับ ราอูล แต่กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เกือบได้ประตูหนีห่างอีกครั้งในนาที 56 นานี จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ใช้ตัวบังกองหลัง ก่อนเปิดย้อนมาให้ อันแดร์สัน ปั่นโค้งถูก นอยเออร์ พุ่งปัดทิ้งปลายมือ

ลูกทีมของ ราล์ฟ รังนิก ครองบอลเหนือกว่าเล็กน้อย แต่เกมรุกไม่มีประสิทธิ์ภาพพอที่จะกดดันแนวรับของคู่แข่ง เกมผ่านมาถึงนาที 71 เป็นโอกาสลุ้นประตูของผีแดงอีก หลังจาก อันแดร์สัน หลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนผ่านเรียดมาหน้าประตู สมอลลิง ซึ่งเติมเกมขึ้นมาชาร์จยิงบอลเข้าเสาสอง แต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากเป็นการล้ำหน้าก่อน

แต่อีก 2 นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็หนีห่าง 3-1 จนได้เมื่อ นานี กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนเปิดบอลมาในเขตโทษ อันแดร์สัน ชาร์จจังหวะแรกไม่ดีล้มลงกับพื้น แต่ยังเร็วลุกกลับขึ้นมาตวัดยิงด้วยซ้ายผ่านมือ นอยเออร์ ซุกตาข่าย หลังจากนั้นมิดฟิลด์ชาวบราซิลมาทำประตูที่สองของตัวเองในนาที 76 จากการชาร์จลูกผ่านของ เบอร์บาตอฟ พร้อมกับทำให้เจ้าถิ่นฉีกหนี 4-1

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ชาลเก กลับมาบุกดันอีกครั้งโดยทำได้ดีที่สุดจาก เอดู ที่ตะบันจากนอกเขตโทษ ฟาน เดอร์ ซาร์ รับไม่อยู่บอลกระฉอกออกมาเข้าทาง คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาตามซ้ำเข้าประตู แต่กลายเป็นกองหน้าชาวดัตช์ล้ำหน้าก่อน สุดท้ายทีมเยือนไม่สามารถทำประตูไล่ขึ้นมาได้ จบเกม 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะไปด้วยประตูรวม 6-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุ ที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอนนี อีแวนส์, คริส สมอลลิง, จอห์น โอเชีย, ราฟาเอล, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, นานี, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, อันโตนิโอ วาเลนเซีย
ชาลเก 04 : มานูเอล นอยเออร์, คริสตอฟ เมตเซลเดอร์, เบเนดิกท์ โฮเวเดส, เซร์คิโอ, อัตซึโตะ อูชิดะ, โฆเซ ฆูราโด, คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส, จูเลียน แดรกซ์เลอร์, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, ราอูล, อเล็กซานเดอร์ บามโจฮันน์

ประตู
1 - 0 วาเลนเซีย น.26
2 - 0 กิ๊บสัน น.31
2 - 1 จูราโด น.35
3 - 1 แอนเดอร์สัน น.72
4 - 1 แอนเดอร์สัน น.76

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
67' [0 - 1] R. Giggs


69' [0 - 2] W. Rooney

ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 04 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 26 เม.ย. 54 | ชาลเก้ 04 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก 26 เม.ย. 54
ชาลเก 04 (เยอรมนี) 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)

เกมรอบตัดเชือกนัดแรก ชาลเก 04 ทีมกลางตารางจากบุนเดสลีกา เยอรมนี เปิดสนามเฟลตินส์ อารีนา ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนี้เจ้าถิ่นนำทัพโดย มานูเอล นอยเออร์ นายทวารทีมชาติเยอรมนีที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงเฝ้าเสา ส่วนคู่หัวหอกวาง ราอูล กอนซาเลซ ตัวเก๋าชาวสเปน เจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดในรายการนี้ 71 ลูกจาก 140 นัดล่าตาข่ายกับ เอดู กอนซัลเวส ด้านทีมเยือนส่ง ฟาบิโอ ดา ซิลวา ยืนแบ็กขวาแล้วให้ เวย์น รูนีย์ ประสานงานในแดนหน้ากับ “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ที่กำลังฟอร์มร้อนแรง

เริ่มเกมมาได้เพียง 31 วินาที “ราชันสีน้ำเงิน” มีโอกาสทักทายก่อน เมื่อ อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์ ลองซัดหน้าเขตโทษแต่ไม่ผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ล้มตัวรับติดมือ จากนั้น “ปิศาจแดง” ก็ตอบโต้ได้น่ากลัว 3 ที เริ่มจาก รูนีย์ ในนาทีที่ 3 ที่โยกหลบ อัตซุโตะ อุจิดะ แบ็กขวาชาวญี่ปุ่นแล้วปั่นโค้งจะเสียบสามเหลี่ยมถูก นอยเออร์ บินปัดสุดปลายมืออกไปได้ นาทีที่ 5 พาร์ค จี-ซอง ได้ส่องในเขตโทษ นอยเออร์ ล้มตัวเซฟได้ในจังหวะแรกก่อนที่จะป้องกันลูกโหม่งซ้ำของ ชิชาริโต ได้อีก ทว่าไลน์แมนจับล้ำหน้าหัวหอกเม็กซิกัน ถัดมานาทีเดียว อันโตนิโอ วาเลนเซีย ผ่านบอลจากกราบขวาให้ ชิชาริโต ล้มตัวซัดไม่ถนัด ลูกจึงเบาเข้ามือ นอยเออร์

ชาลเก ถูกกดดันหนักจึงพยายามเปิดเกมรุกขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่เฉียบขาด ผิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บุกแล้วได้เสียวตลอด นาทีที่ 14 พาร์ค จ่ายให้ ชิชาริโต หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษ แต่ นอยเออร์ ยังเหนียวหนึบล้มตัวคว้าลูกแปเล่นทางเอาไว้ได้อีก 6 นาทีให้หลัง ชิชาริโต ได้ซัดส่งลูกหนีมือ นอยเออร์ เฉี่ยวเสาแรกออกไป นาทีที่ 25 ชิชาริโต หลุดเข้าไปกึ่งยิงกึ่งผ่านก็ยังผ่านหน้าประตูออกหลัง ถัดมา 2 นาที อาคันตุกะน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ กิกส์ โขกกดลงพื้นย้อนศร แต่ นอยเออร์ ที่ตัวถลำไปแล้วยังปัดได้ด้วยมือขวาข้างเดียว

เกมตกเป็นของปิศาจแดงโดยสิ้นเชิง นาทีที่ 35 ชิชาริโต ที่วันนี้มีโอกาสสับไกหลายหนพลิกเข้าไปกดในเขตโทษ นอยเออร์ พุ่งปัดมาเข้าทาง พาร์ค ซ้ำดาบสอง แต่ อุจิดะ ล้มตัวบล็อกได้ที่หน้าประตู 5 นาทีให้หลัง ราชันสีน้ำเงินได้ลุ้นบ้างจากการยิงไกลของ เบาม์โยฮันน์ แต่ก็ไม่เกินกำลังของ ฟาน เดอร์ ซาร์ จากนั้นนาทีที่ 45 ทีมเยือนเกือบขยับสกอร์นำได้อีกหน เมื่อ กิกส์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ นอยเออร์ ที่วันนี้เซฟอุตลุดยังออกมาบล็อกได้ไวอีก จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลังก็ยังคงเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ขึงเกมรุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 47 กิกส์ เปิดฟรีคิกมาที่เสาแรก ไมเคิล คาร์ริค ได้โหม่งถูก นอยเออร์ โดดปัดข้ามคาน นาทีต่อมา กิกส์ ล็อกหลบกองหลังชาลเกที่เข้ามาสกัดทีเดียว 2 คน ทว่ากลับยิงด้วยขวาออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง นาทีที่ 51 ชิชาริโต ได้ล้มตัวหวดผ่านมือ นอยเออร์ เข้าไปตุงตาข่ายเป็นครั้งแรก แต่ไม่เป็นประตูเนื่องจาก “เจ้าถั่วน้อย” ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนที่บอลจะมาถึง จากนั้นนาทีที่ 52 ชาลเก พลาดโอกาสที่นานๆ จะมีสักที เมื่อ โฆเซ ฆูราโด ได้เก็บตกซัดในเขตโทษหลุดกรอบออกไปเอง

ราล์ฟ รังนิก กุนซือราชันสีน้ำเงินเริ่มขยับตัวแก้เกมด้วยการส่ง เปียร์ คลูเก ลงไปแทน เบาม์โยฮันน์ ทว่าถึงนาทีที่ 67 ปิศาจแดงก็มาพังตาข่ายนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ รูนีย์ พาบอลหนีการสกัดของ คลูเก แล้วจ่ายทะลุช่องให้ กิกส์ หลุดเข้าไปแปลอดขา นอยเออร์ บอลซุกก้นตาข่ายท่ามกลางความสะใจของสาวกเรด อาร์มี จากนั้นนาทีที่ 69 ชิชาริโต ก็จิ้มผ่านช่องแนวรับเจ้าถิ่นให้ รูนีย์ ยิงตามน้ำผ่านมือ นอยเออร์ เข้าไปเป็น 2-0

หลังจากสกอร์นำห่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ถอดเอาตัวเก่งอย่าง ชิชาริโต และ พาร์ค ออกมาพักแล้วส่ง อันแดร์สัน กับ พอล สโคลส์ ลงไปยืดเส้นยืดสาย ขณะที่เจ้าบ้านก็ส่งเอา เซอร์จิโอ เอสคูเดโร ลงไปแทน ฮันส์ ซาร์เป เพื่อเสริมเกมรุก ซึ่ง เอสคูเดโร ก็มีโอกาสสับไกลุ้นจากหน้าเขตโทษในนาทีที่ 80 แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ พุ่งรับได้ไม่หลุดมือก่อนที่ ชาลเก จะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง จูเลียน แดรกซ์เลอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งลงไปแทน ฆูราโด แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงบุกมาชนะ 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นนัดสองในบ้านตัวเองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันพุธที่ 4 พฤษภาคมนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ชาลเก 04 – มานูเอล นอยเออร์, อัตซุโตะ อุจิดะ, โจเอล มาติป, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, ฮันส์ ซาร์เป, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, คีริยากอส ปาปาโดปูลอส, โฆเซ ฆูราโด, อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์, เอดู กอนซัลเวส, ราอูล กอนซาเลซ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิกส์, พาร์ค จี-ซอง, เวย์น รูนีย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 เมษายน 2554 03:31 น.
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

ป้ายกำกับ

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (360) ข่าวสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (98) พรีเมียร์ลีก 2011/2012 (87) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (66) พรีเมียร์ลีก 2010/2011 (58) พรีเมียร์ลีก 2015/2016 (48) ลิเวอร์พูล (33) อาร์เซนอล (30) พรีเมียร์ลีก 2012/2013 (29) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (29) เชลซี (27) ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส (26) สโต๊ค ซิตี้ (26) นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (24) แอสตัน วิลล่า (23) เอฟเวอร์ตัน (21) เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (20) ฟูแล่ม (18) นอริช ซิตี้ (17) ฟุตบอลอุ่นเครื่อง/กระชับมิตร (17) สวอนซี ซิตี้ (17) ซันเดอร์แลนด์ (16) พรีเมียร์ลีก 2014/2015 (16) วีแกน (16) แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (14) โบลตัน (14) UEFA (13) วูล์ฟแฮมป์ตัน (13) ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส (12) เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (11) เซาธ์แฮมป์ตัน (9) เลสเตอร์ ซิตี้ (7) วัตฟอร์ด (6) เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (6) แบล็คพูล (6) คริสตัล พาเลส (5) พรีเมียร์ลีก 2016/2017 (5) เอเอฟซี บอร์นมัธ (5) พรีเมียร์ลีก 2013/2014 (4) เรดดิง (4) บาร์เซโลนา (3) ชาลเก้ 04 (2) วาเลเรนกา (2) LEAGUE CUP (1) กลาสโกว์ เรนเจอร์ (1) กว่างตง (1) กาลาตาซาราย (1) คลิปในตำนานแมนยูฯ (1) ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2010/2011 (1) ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2011/2012 (1) ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2012/2013 (1) ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2013/2014 (1) ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2015/2016 (1) ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก 2016/2017 (1) นิวยอร์ค คอสมอส (1) บาเลนเซีย (1) พีเอสวี (1) ฟุตบอลเอฟเอ คัพ (1) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก (1) รีล มาดริด (1) อิปสวิช ทาวน์ (1) เบิร์นลี่ย์ (1) เอฟเอ คัพ (1) แอธเลติก บิลเบา (1) โคโลญจน์ (1) โวล์ฟบวร์ก (1) ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (1)
ขับเคลื่อนโดย Blogger.