|
ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดการเซ็นสัญญาคว้าตัว โจ อัลเลน |
ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดการเซ็นสัญญาคว้าตัว โจ อัลเลน กองกลางดาวรุ่งของ สวอนซี ซิตี เข้ามาเป็นผู้เล่นคนใหม่ของทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อคืนวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ด้วยสัญญาระยะยาวหลังผ่านการตรวจร่างกายกับทางสโมสร
กองกลางวัย 22 ปี มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวพันกับ "หงส์แดง" มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้ไปปรากฏตัวบนที่นั่งคนดูที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมยูโรปา ลีก รอบคัดเลือกนัดสองที่ ลิเวอร์พูล ชนะ โกเมล 3-0 ซึ่งถือเป็นการโหมกระแสข่าวลือให้หนักยิ่งขึ้น
และล่าสุด ทุกอย่างไม่มีพลิกโผ เมื่อ ลิเวอร์พูล ดึงตัวกองกลางชาวเวลส์ เข้ามาอยู่กับทีมได้สำเร็จ หลังเจ้าตัวเดินทางมาตรวจร่างกายที่เมลวูดก่อนเซ็นสัญญาระยะยาวกับทีม โดยไม่มีการเปิดเผยเรื่องจำนวนสัญญาและค่าตัวแต่อย่างใด แต่มีการคาดเดาว่าการซื้อขายครั้งนี้น่าจะอยู่ราว 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 750 ล้านบาท)
หลังเซ็นสัญญาพร้อมเตรียมสวมเสื้อหมายเลข 24 ให้กับทีม อัลเลน ชี้สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตนย้ายมาถิ่นแอนฟิลด์ เป็นเพราะความเชื่อมั่นในตัวเจ้านายเก่าอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดยกล่าวว่า "เวลานี้ผมกำลังมองถึงการเป็นส่วนหนึ่งของฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูล ผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ร็อดเจอร์ส จะนำความสำเร็จมาสู่ทีม ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ตัดสินใจมาที่นี่"
"เบรนแดน นั้นหลงใหลเรื่องฟุตบอลเป็นอย่างมาก เขาทำงานหนักไม่ว่าจะในหรือนอกสนามเพื่อพัฒนาทีม และเชื่อว่าทุกคนก็ต้องการทำงานเคียงข้างกับเขา สิ่งที่ดีที่สุดข้อหนึ่งของเขาคือการจัดการอันยอดเยี่ยม เขาทำให้ทุกคนเชื่อใจและนั่นก็ไม่ต่างอะไรจากผม การได้กลับมาร่วมงานกับเขาอีกครั้งนั้นคือสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นผมเป็นอย่างดี" อัลเลน กล่าว
ขณะที่ ร็อดเจอร์ส กล่าวถึงอดีตลูกหม้อของตัวเองเช่นกันว่า "โจคือผู้เล่นที่มีความฟิตที่ยอดเยี่ยม มีความสามารถในการครองบอลบนสนาม นั่นคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมาโจได้เรียนรู้อะไรมามากสมัยอยู่กับสวอนซี และตอนนี้ก็คือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ในอาชีพของเขา ผมหวังว่าเขาจะมอบผลงานที่ดีที่สุดตามที่หวังยามลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล"
ทั้งนี้ การย้ายเข้ามาของ อัลเลน ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะรายที่ 2 ที่ย้ายเข้ามาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ ตามหลัง ฟาบิโอ บอรินี กองหน้าชาวอิตาเลียนของโรมา ที่ย้ายข้ามถิ่นมาอยู่ค้าแข้งบนเกาะอังกฤษด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท) ก่อนหน้า