สัปดาห์ ที่อาจมีจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นได้เมื่อสองทีมที่ลุ้นแชมป์อย่าง แมนฯยูฯกับเชลซี ลงแข่งขันคนละวันและเวลา นั่นหมายความว่าผู้ชิงจังหวะชนะก่อนจะได้เปรียบก่อน โดยตามโปรแกรมนั้นเชลซีเตะวันเสาร์ ส่วนแมนฯยูฯวันอาทิตย์ หากเชลซีชนะสเปอร์สได้ก่อน
ช่องว่างลดลงเหลือ 3 แต้มปล่อยให้แมนฯยูฯ พบกับความกดดันในการเตะกับอาร์เซนอลวันอาทิตย์นั่นเอง
|
เชลซี VS สเปอร์ส |
เชลซี VS สเปอร์สวันเสาร์ที่ 30 เม.ย. เวลา 23.30 น.
ต้นฤดูกาลที่ไวท์ฮาร์ทเลนเสมอกันมา 1-1 แต่การเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นเป็นตัวเลขที่แฟนตราไก่วิตกกังวลไม่ใช่น้อยๆ จำนวน 18 นัดในพรีเมียร์ลีกที่เดอะ บริดจ์ นับตั้งแต่เปลี่ยนจากดิวิชั่นหนึ่งเดิมเมื่อปี 1992 ปรากฏว่าเชลซีชนะ 12 เสมอ 6 โดยสเปอร์สบุกชนะสิงห์บลูล่าสุดเมื่อฤดูกาล 1989-90 เป็นดิวิชั่นหนึ่งเดิม
นอกนั้นพวกเขาทำดีที่สุดคือเสมอเท่านั้นเอง
|
เชลซี ชนะ
|
เสมอ
|
สเปอร์ส ชนะ
|
ลีกสูงสุด
|
52
|
30
|
43
|
ลีก คัพ
|
3
|
2
|
2
|
เอฟเอ คัพ
|
4
|
2
|
4
|
Total
|
59
|
34
|
49
|
สภาพทีม สิงห์บลู...ได้ทีมที่ลงตัวและสภาพทีมไม่มี ปัญหาอะไรมากแนวรับทุกคนพร้อมลงเล่นทั้ง ดาวิด ลุยส์, จอห์น เทอร์รี แดนกลางร่างกายของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไม่น่ามีปัญหาอะไร ขณะที่ รามิเรซ ไม่สมบูรณ์แต่ โอบี มิเกล ทำหน้าที่ได้ไม่ยาก ส่วน ตอร์เรส แม้ยิงได้ก็น่าจะเป็นตัวสำรองต่อไป
สเปอร์ส...ตรวจร่างกายของ ทอม ฮัดเดิลส์ตัน หากผ่านได้ก็ลงไม่ได้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะซานโดร นักเตะบราซิลเล่นแทนได้ ขณะที่ เลนนอน ต้องลุ้นทดสอบความฟิตด้วยเช่นกัน ข้างหน้า เจอร์เมน เดโฟ ,พาฟลิวเชนโก เล่นด้วยกันได้อย่างไร้ปัญหา
กลยุทธ์ที่ผลที่คาด เชลซีฮึกเหิมและมั่นใจมากขึ้น แถมมีทีเด็ดข้างสนามอย่าง อเนลก้าและ ตอร์เรส รอเวลาลงมาเปลี่ยนเกมได้ โดย ดรอกบาคือผู้นำแนวรุก เล่นระบบ 4-3-3 ส่วนสเปอร์สนัดนี้น่าจะเล่น 4-5-1 โดยหวังดึงเกมให้รัดกุมมากที่สุด แต่ปัญหาของสเปอร์สเวลานี้คือการทำเกมรุก เจาะคู่แข่งได้ยาก
ดูแล้วเชลซีจะครองเกมมากกว่า หาโอกาสปิดเกมสเปอร์สไม่ยาก จุดแข็งมีมากกว่า ส่วนสเปอร์สนั้นเริ่มล้าไปพอสมควร 20 นาทีสุดท้ายมียุบ มีแผ่วให้เห็น
นัดนี้เชลซีชนะ 2-0
|
อาร์เซนอล VS แมนฯยูฯ |
อาร์เซนอล VS แมนฯยูฯวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. เวลา 20.00 น
แม้ว่าโอกาสลุ้นแชมป์ของอาร์เซนอลริบหรี่จนมองไม่เห็นแสงสว่างแต่เกม นี้ถือว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่พวกเขาจะยอมแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ง่ายๆ คงไม่ใช่ที่ ดังนั้นทุกอย่างต้องเต็มที่เล่นเพื่อชัยชนะหรือกระทั่งผลเสมอแล้วไม่แพ้ทีม ปีศาจแดงน่าจะเป็นสปิริตของชาวกันเนอร์ส ซึ่งแฟนบอลของพวกเขาคงอยากเห็นมากที่สุด
อย่างไรก็ตามสถานะการณ์ทางฝั่งแมนฯยูไนเต็ดเวลานี้เต็มไปด้วยความคึกคัก มั่นใจ หลังจากผ่านชาลเก้ ในบอลแชมเปี้ยนส์ ลีกมาแบบไม่ยากลำบากอะไร พร้อมทั้งโชว์ฟอร์มสมราคาเล่นดีกว่าทั้งเกมและผลแข่งซึ่งน่าชนะมากกว่า 2 ลูกด้วยซ้ำ จากโอกาสที่แมนฯยูฯ ทำได้
ลงสนามพบกับอาร์เซนอลนัดนี้อาจมีจุดที่ทำให้น่ากังวลใจอย่างเดียวคือพวก เขาจะลงสนามช้ากว่าเชลซี 24 ชั่วโมง โดยทีมสิงห์บลูนั้นพบกับสเปอร์สใน ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ หากเชลซีชนะได้ก่อนแต้มจะลดลงเหลือ 3 คะแนนอันมีผลเชิงจิตวิทยาด้วยเหมือนกัน
เพราะผีแดงพลาดเสมอก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่....อาจหมายถึงแต้มที่หายไป 2 และจะทำให้เชลซีมีโอกาสลุ้นในสัปดาห์หน้ามากขึ้นกว่าเดิม
|
แมนฯ ยูฯ ชนะ
|
เสมอ
|
อาร์เซนอล ชนะ
|
ลีกสูงสุด
|
75
|
42
|
66
|
ลีก คัพ
|
4
|
0
|
2
|
เอฟเอ คัพ
|
7
|
2
|
5
|
Total
|
86
|
44
|
60
|
สภาพทีม “ปีศาจแดง” พร้อมเต็มที่ไม่มีใครบาดเจ็บกลับมาและคาดว่า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น่าจะพร้อมเล่นเกมนี้โดยอาจมีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย ขณะที่ รูนีย์, ชิชาริโต และแนวรับ ริโอ, วีดิช น่าจะยืนเหมือนเดิม แดนกลางอาจปรับเปลี่ยน อันแดร์สัน น่าจะได้โอกาสเล่นตัวจริงแทน กิ๊กส์
“ปืนใหญ่” ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีมมากเท่ากับสภาพจิตใจ เวลานี้ความมั่นใจหายไปเยอะ หากหวังจะเรียกและกอบกู้ศรัทธาคืนมาพวกเขาต้องล้มผีแดงให้ได้ โดยเกมนี้ตัวหลักๆอย่าง โรบิน ฟาน เปอร์ซีย์, ฟาเบรกาส, นาสรี ลงเล่นพร้อมหน้าพร้อมตา
กลยุทธ์และผลที่คาด แมนฯยูไนเต็ด อาจเล่นระบบ 4-4-2 แต่ไม่เครียดกับเกมมาก พวกเขาต้องการเล่นเพื่อไม่ให้แพ้ในนัดนี้ ส่วนปืนใหญ่จะเล่นระบบ 4-2-3-1 เน้นการผ่านบอลเท้าต่อเท้าเจาะตามช่องเหมือนเคย แต่คาดว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะดึงเกมช้าคอนโทรลเกมโดยบีบให้อาร์เซนอลเสียบอลแดนกลางเร็วที่สุด น่าจะมองเห็นจุดบอดในแนวรับของอาร์เซนอลที่หละหลวมและพลาดง่ายโดนโจมตีบ่อยๆ น่าเสียศูนย์ ดูแล้วเกมนี้ อาร์เซนอล เป็นรองทุกสภาพ เกมรับไม่น่าต้านทานเกมรุกของผีแดงได้
อาร์เซนอลน่าจะเจอผีบุกมาอัดคาถิ่น 2-0
ส่วนคู่อื่นๆ
วันเสาร์ 30 เม.ย. 11
Blackburn v Bolton เป็นดาร์บี้แมตช์ของละแวกแลงคาเชียร์ แถบภาคเหนือตอนล่างของอังกฤษ แบลคเบิร์นมีปัญหาเกมรุก เมื่อเทียบกับโบลตัน ซึ่งอาวุธครบมือกว่า ดูแล้วทีมเยือนขนะใสๆ
Blackpool v Stoke เจ้าบ้านดิ้นสุดชีวิตผลงานในบ้านไม่กระเตื้องเจอความกดดันต่างจากต้นซีซั่น ขณะที่สโตค ซิตี้ ซ้อมใหญ่ในการเล่นเอฟเอ คัพ ไม่กดดัน ทำให้เล่นง่ายแถมไม่ลุ้นเรื่องตกชั้นอีก น่าจะเล่นสบายกว่า ผลอาจไปเข้าทางแบลคพูล
Sunderland v Fulham ทีมเยือนผ่านเกมกลางสัปดาห์มา เจองานหนักที่บ้านของแมวดำ ความแกร่งของซันเดอร์แลนด์ บวกกับแนวรุกที่เริ่มคมกริบขึ้นจะทำให้ทีมของ สตีฟ บรูซ ชนะในเกมนี้
West Brom v Aston Villa เวสต์บรอมสู้ตายสุดๆ ส่วนวิลล่านั้น อุลลิเยร์ เข้าโรงพยาบาลรอบสองในชีวิตที่อังกฤษ ต้องใช้มือขวาทำงานแทน น่าจะเป็นเกมที่นักเตะพยายามเล่นเพื่อโค้ช คงสู้กันสนุก ดูแล้วโอกาสออกได้สามหน้าคู่นี้
Wigan v Everton วีแกนเล่นในบ้านใช้ได้ ขณะที่เอฟเวอร์ตัน น่าจะเรียกฟอร์มตัวเองกลับมาได้หลังโดนแมนฯยูฯ ต้อนตือนัดล่าสุด แม้แพ้ 0-1 แต่เกมสู้ผีแดงไม่ได้แถมรับตลอด แต่นัดนี้เจอทีมระดับเดียวกันน่าจะ สู้ได้ แต่โอกาสชนะไม่ง่ายเพราะ วีแกน ถอยหลังไม่ได้แล้ว
วันอาทิตย์ ที่ 1 พ.ค.
Birmingham v Wolverhampton จัดว่าเป็นดาร์บี้แมตช์ของภาคกลาง เบอร์มิงแฮม เสียฟอร์มนัดพบหงส์แดง นัดนี้ต้องเต็มที่ในบ้าน ส่วนวูล์ฟเล่นกลางสัปดาห์มา พลาดท่าโดนสโตค ซิตี้ ยิงกระจาย น่าจะปรับเกมได้ นัดนี้ดูแล้วแบ่งทีมละ 1 แต้ม
Liverpool v Newcastle หงส์แดงได้ความมั่นใจมากขึ้น แถมตั้งแต่ เคนนี ดัลกลิช คุมทีมเล่นในบ้านฟอร์มสดมาก นัดนี้เชื่อว่า แคร์โรลล์ อาจได้พบกับทีมเก่า และหงส์แดงสปิริตเยอะขึ้น น่าจะชนะนิวคาสเซิลได้
Man City v West Ham มาตรฐานแมนฯซิตี้เหนือกว่า แถมมีจังหวะเคี่ยวในเกมรุก ดูแล้วเวสต์แฮม ต้านไม่อยู่ น่าจะแพ้แบบขาดลอย
บทความโดย "แจ็คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 4/28/2011 3:03:15 PM